ทันทีที่เรื่องราวของนางอนงค์นาฏ วิลาจันทร์ กระจายไปในโลกออนไลน์ โดยเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ที่มีแอดมินเป็นหมอ คือ จ่าพิชิต ช่วยเผยแพร่ โดยมีสาระสำคัญว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลด่วน เพราะแม้จะเข้าใจได้ถึงข้อจำกัดในเชิงระบบ แต่กฎระเบียบเหล่านี้ก็อาจขัดต่อเจตนาของการพัฒนาระบบสาธารณสุขที่ต้องการให้ผู้ป่วยทุกคนเข้าถึงการรักษาได้อย่างเสมอภาค
ไม่นานนักก็มีคนจำนวนมากเข้ามาถ่ายทอดประสบการณ์ว่า เคยแผชิญกับเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน คือ ไม่สามารถเลือกใช้สิทธิการรักษาที่ตัวเองมีอยู่ได้ เพราะแม้จะเห็นว่า สิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สวัสดิการข้าราชการของตัวเองดีกว่า แต่ระบบและเงื่อนไขจะกำหนดให้ใช้สิทธิ์ในกองทุนสวัสดิการสังคมเป็นลำดับแรก หากมีสถานะเป็นผู้ประกันตน ซึ่งก็ต้องรอถอดสิทธิประกันสังคมเป็นเวลา 6 เดือน เหมือนกันบนางอนงค์นาฏ
อย่างเช่นผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Thanakrit Kob เล่าว่า ตัวเองป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CML หากใช้สิทธิประกันสังคมจะไม่ได้รับยาฟรี แต่ถ้าใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะได้ยาชนิดเดียวกันฟรี ที่สำคัญยาชนิดนี้ เม็ดละ 1500 บาท กินวันละ 3 – 6 เม็ด แต่ก็ไม่สามารถโยกมาให้สิทธิหลักประกันสุขภาพได้ทันที เพราะต้องรอ 6 เดือน
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ NuNew KoKoe ระบุว่า ตัวเองป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 3 ก็ต้องใช้เวลา 6 เดือน เพื่อเปลี่ยนมาใช้สิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แต่คนนี้ก็อยู่ในสถานะเดียวกับ นางอนงค์นาฏ คือ การรักษาไม่สามารถรอเวลาได้ สุดท้ายต้องให้ครอบครัวหาเงินมาจ่ายค่ารักษาด้วยตัวเองทั้งหมด