ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฎว่า ชาวตุรกี 51.41% ลงคะแนนรับรองร่างกฎหมายฉบับใหม่ เพื่อนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญ ยุบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรวบอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง โดยผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจะเป็นผู้มีอำนาจบริหารเด็ดขาดทั้งหมด ทั้งอำนาจในการเลือกคณะรัฐมนตรี การประกาศราชกิจจานุเบกษา และการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกาส่วนหนึ่ง
ส่วนคะแนนเสียงของฝ่ายที่คัดค้านอยู่ที่ 48.59% ซึ่งถือว่าเป็นการเฉือนชนะกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ที่น่าสนใจ 3 เมืองใหญ่ของตุรกี ทั้งนครอิสตันบูล กรุงอังการา และเมืองอิซเมอร์ ต่างโหวตไม่เห็นด้วย ขณะที่จำนวนผู้ใช้สิทธิ์ทั้งหมดอยู่ที่ 85%
ทันทีที่ทราบผลอย่างไม่เป็นทางการ ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดอัน ของตุรกีได้ออกมาประกาศชัยชนะ และขอบคุณผู้สนับสนุน โดยคาดกันว่าร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้จะช่วยให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ถึงปี 2029
ด้านพรรคฝ่ายค้านประกาศไม่ยอมรับผล และต้องการให้มีการนับคะแนนใหม่ เนื่องจากพบความผิดปกติหลายจุด โดยเฉพาะบัตรลงคะแนนที่ไม่ลงตราประทับ ซึ่งล่าสุด ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งตุรกีได้ออกมายืนยันแล้วว่า บัตรลงคะแนนเหล่านั้นออกโดยเจ้าหน้าที่ และมีผลถูกต้องตามกฎหมายเหมือนบัตรลงคะแนนใบอื่นๆ
ชัยชนะของนายเออร์โดอันในครั้งนี้ สร้างความกังวลให้กับสหภาพยุโรป เนื่องจากนายเออร์โดอันเคยประกาศไว้ว่า จะรื้อฟื้นโทษประหารชีวิต หากชนะประชามติ ซึ่งถือว่าขัดกับเงื่อนไขการสมัครเป็นสมาชิกอียู ที่ระบุให้ประเทศสมาชิกต้องไม่มีกฎหมายการประหารชีวิต