คุณบุญฑริกา จัยสิน กำนันตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี แจ้งเข้ามาว่าพบครอบครัวยากจน อยู่กับลูกสาวคนโตพิการทางสมองตั้งแต่กำเนิด โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบครอบครัวของคุณบุญมี สมดี อายุ 50 ปี อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ภายในไม่มีการกั้นห้อง ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ด้านหลังบ้านถูกต่อเติมเป็นห้องน้ำและห้องครัว
คุณบุญมี เล่าว่า สมาชิกครอบครัวมีอยู่ด้วยกัน 5 คนคือ ตัวคุณบุญมี, คุณสถิต สมดี อายุ 54 ปี สามีของคุณบุญมี, น้องอัศวินี อายุ 18 ปี ลูกสาวคนโตซึ่งพิการทางสมองมาตั้งแต่เกิด, น้องพีรพัฒน์ อายุ 17 ปี ลูกชายคนรองที่ตอนนี้ไปเรียนที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นโรงเรียนกินนอนเรียนฟรี นานๆ จึงกลับมาบ้าน และน้องณัฐพงศ์ ลูกชายคนเล็กอายุ 4 ขวบ
ครอบครัวของคุณบุญมีมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก มีรายได้หลักจากสามีที่ออกทำงานรับจ้างทั่วไป รายได้ไม่แน่นอน ส่วนคุณบุญมีต้องคอยดูแลลูกสาวคนโตที่พิการอยู่กับบ้าน และรับจ้างประกอบไม้กวาด มีรายได้เฉลี่ยวันละ 150 บาท และมีเงินผู้พิการของลูกสาวอีกเดือนละ 800 บาท รวมถึงได้เงินจากการตระเวนชกมวยตามงานบุญของลูกชายคนรองมาช่วยจุนเจือบ้าง แต่ก็ไม่มากมายอะไร
คุณบุญมี ยังเล่าอีกว่า นอกจากความจนที่เผชิญอยู่ในตอนนี้ ยังต้องมาลำบากจากบ้านที่ผุพัง ห้องครัว และห้องน้ำก็ไม่มีหลังคา เวลาฝนตกน้ำฝนก็สาดเข้ามาในบ้าน บางครั้งทั้งคุณบุญมีและลูกสาวก็เปียกทั้งตัว ต้องนั่งกอดกันร้องไห้อยู่ภายในบ้าน ก่อนหน้านี้เคยมีการส่งเรื่องขอทางหน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือซ่อมแซมแต่ก็เงียบหายไป ปัจจุบันตัวคุณบุญมีก็ป่วยหลายโรครุมเร้า ทั้งความดัน เบาหวาน และไขมันในเส้นเลือด อยากจะวอนผู้ใจบุญช่วยซ่อมแซมบ้านให้มีสภาพที่มั่นคงกว่านี้ และอยากจะได้เงินทุนการศึกษาไว้ให้ลูกชายไว้ได้เรียนต่อและดูแลพี่สาวพิการในวันที่ตัวเองไม่มีชีวิตอยู่แล้ว
สำหรับผู้ใจบุญท่านใดที่อยากจะให้การช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้าน และ ทุนการศึกษาของครอบครัวสมดี สามารถบริจาคได้ที่ บัญชีธนาคาร กรุงไทย สาขาโขงเจียม หมายเลขบัญชี 338-0-35112-1 ชื่อบัญชี นายประเสริฐ ทองคำ และนางนวลฉวี แย้มจับ และนางบุญมี สมดี หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 083-965-0612 คุณนวลฉวี แย้มจับ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองแสงใหญ่
ทั้งนี้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้รับหนังสือร้องเรียนแล้ว ทางศูนย์ได้ส่งเรื่องต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งพื้นที่เขตการศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งทางศูนย์ฯ จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดภายในวันที่ 15 พ.ค. 60