จากตัวเลขบัญเงินฝากที่เปิดเผยโดยธนาคารแห่งประเทศไทยในช่วงปลายปี 2559 เปรียบเทียบกับตัวเลขบัญชีเงินฝากในเดือนล่าสุด คือ เดือนกุมภาพันธ์ 2560 จะพบว่า จำนวนบัญชีเงินฝาก โดยเฉพาะประเภทบัญชีเงินฝากไม่เกิน 50,000 บาทลดลงมากกว่า 1 ล้านบัญชี จนหลายคนกังวลว่านี่เป็นสิ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจของไทยยังไม่ฟื้น จนต้องนำเงินออมออกมาใช้จ่าย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยอมรับว่าตัวเลขบัญชีเงินฝากที่ลดลง เป็นไปได้ว่าคนอาจจะเอาเงินออกมาใช้ในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เพราะจากข้อมูลที่มีการสำรวจพบว่าคนไทยก่อหนี้มากขึ้น และสะท้อนกับตัวเลขเอ็นพีแอลของสถาบันการเงินที่กังวล ทำให้การปล่อยสินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้น แต่ส่วนตัวมองว่าประเด็นนี้ยังไม่น่าเป็นกังวล เพราะขณะนี้สัดส่วนการออมเฉลี่ยอยู่ที่ 35 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติมีการสำรวจเป็นประจำ พบว่า ภาคครัวเรือนยังมีการออมอยู่ ซึ่งจากตัวเลขเงินฝากบัญชีที่ลดลงอาจจะเป็นระยะสั้นๆเท่านั้น เพราะเศรษฐกิจมีสัญญาณการฟื้นตัวแล้ว