ทนายคู่ใจชี้ เมียหลวงขับชนรถสามีจนกิ๊กบาดเจ็บอาจโดนคดีอาญา


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ตร.ปทุมธานี ยังไม่แจ้งข้อหาภรรยาหลวงขับฟอร์จูนเนอร์พุ่งชนรถเบนซ์สามีที่มากับสาว ล่าสุดกิ๊กสามีเจ็บหนักกระดูกแขนหลุด ด้านคนก่อเหตุยอมรับติดสัญญาณ จีพีเอสจริง และทนไม่ได้ เห็นคนรักอยู่กับหญิงอื่น ด้านทนายคู่ใจ เผยเมียหลวงชนกิ๊กสามีอาจโดนคดีอาญา

จากกรณี ภรรยาหลวงติดตั้งตัวติดตามสัญญาณ GPS ไว้กับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ของสามี ก่อนจะจับสัญญาณและขับรถไล่สะกดรอยตาม กระทั่งรู้ความจริงว่า สามีขับรถมากับกิ๊กสาว ด้วยความโมโห จึงตัดสินใจขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีดำ พุ่งชนรถเบนซ์ บริเวณถนนรังสิต–นครนายก ช่วงสะพานคลอง 4 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ หมู่ 2 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และรถยนต์ได้รับความเสียหายหลายคัน

ความคืบหน้าล่าสุด  พ.ต.อ.ธีรวัจน์ ขจรเกียรติภาส ผกก.สภ.ธัญบุรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าของคดีแล้ว พบว่าอุบัติเหตุดังกล่าวมีรถยนต์ที่ประสบเหตุทั้งหมด 5 คัน ผู้ได้รับบาดเจ็บอาการหนักที่สุดคือ ผู้หญิงที่นั่งมากับรถเบนซ์สีขาว ที่โดนพุ่งชนเป็นคันแรก มีอาการกระดูกแขนหลุด ถูกนำตัวส่ง รพ.เปาโล รังสิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บรายอื่นๆ แพทย์ได้รักษาและให้กลับบ้านได้แล้ว ส่วนสาเหตุมาจากรถฟอร์จูนเนอร์สีดำพุ่งชนท้ายรถเบนซ์สีขาว ทำให้รถเสียหลักหมุนไปชนรถร่วมทางคันอื่นมากมาย

เบื้องต้นฝ่ายภรรยาหลวงเผยว่า เกิดบันดาลโทสะจนทนไม่ได้ เพราะเห็นสามีอยู่กับสาวอื่น

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หรือทนายคู่ใจ   เปิดเผยถึกรณีนี้ในข้อกฎหมาย ชนจนแขนหัก มันไม่ได้จบแค่เปรียบเทียบปรับ จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ก็ต้องถูกดำเนินคดีอาญาต่อ ไม่ว่าจะเป็นว่าด้วยเรื่อง ประมาทขับไปชน  มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

หรือเจตนาชน มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี

อันตรายสาหัสนั้น คือ

(๑) ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท

(๒) เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์

(๓) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด

(๔) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว

(๕) แท้งลูก

(๖) จิตพิการอย่างติดตัว

(๗) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต

(๘) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนา เกินกว่ายี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้ เกินกว่ายี่สิบวัน

ส่วนข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น อันนี้น่าเป็นห่วง แม้โทษเบาสุด แต่เท่าที่ติดตามข่าวสารมา ศาลชั้นต้นมักไม่ค่อยรอการลงโทษ

   

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ