วันนี้ (28 พ.ค.60) จักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของสถานีสูบน้ำรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เตรียมความพร้อมรองรับการระบายน้ำ เพราะปัจจุบันยังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม คือ บริเวณถนนสนามไชย หน้าวัดเชตุพนวิมลมังคลาราม ส่วนกรณีการกั้นกระสอบทรายในหลายพื้นที่เพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมบนถนนสายหลักในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นในหลายๆจุดจนทำให้ชุมชนริมคลองต่างๆได้รับผลกระทบนั้น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า มีความจำเป็นเพื่อลดผลกระทบของคนหมู่มาก ซึ่งหากไม่กั้นกระสอบทรายเอาไว้ ปริมาณน้ำจะไหลเข้าสู่ถนนสายหลัก และชุมชนอื่นๆ เพราะปัจจุบันยังไม่สามารถที่จะสร้างเขื่อนระบายน้ำในพื้นที่ชุมชนที่บุกรุกรอบๆถึง 30 จุด โดยยืนยันว่า หากไม่มีการกั้นกระสอบทรายชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ยังไม่สามารถก่อสร้างเขื่อนได้น้ำก็ต้องท่วมอยู่แล้ว
กรุงเทพมหานคร ยอมรับว่า ชุมชนริมคลองที่ได้รับผลกระทบมีประมาณ 670 หลังคาเรือน โดยขณะนี้สามารถดำเนินการเจราจรก่อสร้างเขื่อนได้เพียง 2 แห่ง คือ เขตราชบูรณะ และเขตคลองสานเท่านั้น แต่หากชุมชนให้กรุงเทพมหานครเข้าไปสร้างเขื่อนระบายน้ำได้ตามแผน เชื่อว่าจะสาารถลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมที่มาจากฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุนสูงได้ทั้งหมด
ตลอดวันนี้กรุงเทพมหานคร ก็จะยังเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมอื่นๆอย่างใกล้ชิด โดยในส่วนของเครื่องมือที่ช่วยระบายน้ำ และบุคลากรจะทำงานได้อย่างต่อเนื่อง