บทสนทนาช่วงหนึ่งระหว่างของพล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชกับพระเทพสิริโสภณ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตกและอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช จับใจความสำคัญได้ว่า พระเทพสิริโสภณ เคยถูกนางปิยฉัตร หรือเจ๊บิว ภรรยาของนายเด่นชัย และกลุ่มดูแลผลประโยชน์วัด จับใส่กุญแจมือขังไว้ในกุฎิ นานถึงราว 2 ปี แต่พระสิริโสภณไม่ได้ขยายความในรายละเอียดของที่มาที่ทำให้นางปิยฉัตร หรือ นายเด่นชัย เข้ามาดูแลควบคุมผลประโยชน์วัดได้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยไม่มีการตั้งคณะกรรมการวัดขึ้น และที่ผ่านก็ไม่เคยรับรู้สถานะทางการเงินของวัด
เมื่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชซักถามพระเทพสิริโสภณต่อว่า มีความสัมพันธ์เป็นญาติ หรือ เคยสนิทในฐานะคนใกล้ชิดกับนายเด่นชัยหรือปิยฉัตรหรือไม่ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตกไม่ตอบคำถามนี้ โดยแสดงท่าทีนิ่งเฉย พิรุธหลายประการต่อที่มาของแนวทางบริหารจัดการผลประโยชน์วัดที่ให้ 2 สามีภรรยาดูแลอย่าเบ็ดเสร็จ ประกอบกับวัดวังตะวันตก เป็นวัดที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจเมืองนครศรีธรรมราช และวัดมีผลประโยชน์จากหลายทาง ทั้งการเช่าที่สร้างตึก อาคารพาณิชย์ โรงแรม บริการลานจอดรถ ยิ่งทำให้ตำรวจเชื่อว่า ปมสังหารสามเณรปลื้ม เกิดจากการขัดผลประโยชน์ของกลุ่มผู้ดูแลกิจการวัด
นอกจากการเสาะหาคนที่เกี่ยวข้องกับการสังหารสามเณรปลื้มเพิ่มเติม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ยังขอให้พุทธศาสนิกชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันเข้ามาสังคยนาการบริหารทรัพย์สินวัดวังตะวันตก เพราะการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีอสังหาริมททรัพย์ที่สร้างรายได้มูลค่ารวมหลายร้อยล้านบาท และเงินสดจากกิจการให้เช่าแผงค้า จุดจอดรถ ไหลเข้าวัดอีกวันละไม่น้อยกว่า 15,000 บาท โดยหลังจากนี้ตำรวจจะประสานงานคณะสงฆ์ให้เข้ามาจัดการอย่างเร่งด่วน