พรรคลา เรปูบลิก ออง มาร์ช พรรคสายกลางของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 1 ปี และพรรคโมเดม ซึ่งเป็นพรรคพันธมิตร กวาดชัยชนะไปอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสรอบแรก พรรครัฐบาลของมาครงได้คะแนนไปถึง 32.3% ทิ้งห่างพรรคอนุรักษ์นิยม ที่ได้ไปเพียง 16 % และพรรคขวาจัดของนางมารีน เลอเปน ได้ไป 13.2 % ส่วนพรรคสังคมนิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลชุดก่อน ได้แค่ 7.4% เท่านั้น
ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส มาครง ซึ่งมีดีกรีเป็นอดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ลงสมัครในฐานะหัวหน้าพรรคเล็กๆพรรคหนึ่ง แต่มาวันนี้ดูเหมือนว่าหัวหน้าพรรคลาเรปูบลีก ออง มาร์ช กำลังจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำที่มีเสียงข้างมากในสภา ซึ่งหลายคนไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง หลังทราบผลอย่างเป็นทางการ นายกรัฐมนตรี เอดูวาร์ด ฟิลิปป์ ก็ออกมาประกาศชัยชนะ โดยบอกว่าประชาชนได้แสดงจุดยืนแล้วว่าอยากได้คนหน้าใหม่เข้ามาบริหารประเทศ
ด้านนางมารีน เลอเปน ซึ่งสูญเสียที่นั่งให้กับพรรคของนายมาครงไปไม่น้อย ก็ออกมาตำหนิพรรคของตนเองที่ไม่สามารถดึงคนให้ออกมาใช้สิทธิ์ได้มากพอ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ออกมาใช้สิทธิต่ำเป็นประวัติการณ์ คือ ร้อยละ 48.4 ลดลงจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่มีคนออกมาใช้สิทธิ 65.3%
ขณะที่นักวิชาการเชื่อว่า ผู้คนที่เลือกพรรคอื่นๆ ถอดใจ เลยไม่ใช้สิทธิในการเลือกตั้ง ส.ส. และตอนนี้สื่อฝรั่งเศสหลายสำนักเริ่มคาดการณ์ว่าในการเลือกตั้งรอบ 2 ซึ่งจะเป็นรอบตัดสินชี้ขาดในวันอาทิตย์นี้ พรรคของนายมาครงอาจได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมากถึง 445 ที่นั่งจากทั้งหมด 577 ที่นั่ง ซึ่งจะทำให้รัฐบาลของนายมาครงได้เสียงข้างมากในสภามากที่สุดในรอบ 60 ปี เข้าทางมาครงสุดๆ เพราะนโยบายของมาครงคือการปฏิรูปสหภาพยุโรป กระแสความเบื่อหน่ายนักการเมืองหน้าเดิมๆ ของประชาชนชาวฝรั่งเศส เมื่อรวมกับกลุ่มที่สนับสนุนนักการเมืองรุ่นเก่าที่เลือกจะไม่ยุ่งกับการเลือกตั้ง เป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้มาครงจ่อคว้าชัยชนะถล่มทลายในสภา
อย่างไรก็ตาม นักการเมืองรุ่นเก่าหลายคนก็ออกมาเตือนว่า ระวังพรรคของนายมาครงจะมีอำนาจมากเกินไป โดยเรียกร้องให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งรอบสองในวันอาทิตย์หน้า เพราะถ้าปล่อยให้พรรคเรปูบลิก ออง มาร์ช ได้คะแนนเพิ่มอาจจะทำให้มาครงมีเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา และทำให้ฝรั่งเศสขาดการถ่วงดุลอำนาจ