43 วันกระทรวงดีอีปิดเว็บไม่เหมาะสมแล้ว 965 URL


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-12 มิ.ย.60 รวม 43 วัน กระทรวงดีอี สั่งปิด URL ที่ผิดกฎหมาย 965 URL เป็นของเฟซบุ๊ก 569 URL เป็นของยูทูบ 373 URL และอื่น ๆ 23 URL

วันนี้ (13 มิ.ย.60) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ สำนักงาน กสทช. ได้เชิญผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP เข้าประชุมเพื่อติดตามการดำเนินการปิดเว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย โดย ISP ได้รายงานว่า ตั้งแต่วันที่   1 พ.ค.-12 มิ.ย. 2560 รวม 43 วัน ได้รับคำสั่งศาลจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จำนวน 23 คำสั่ง โดยมี URL ที่ผิดกฎหมาย 965 URL เป็นของเฟซบุ๊ก 569 URL เป็นของยูทูบ 373 URL และอื่น ๆ 23 URL ซึ่งขณะนี้ได้มีการปิดกั้นไปเกือบ 100% แล้ว แต่อย่างไรก็ตามสำนักงาน กสทช. ได้มีการกำชับให้ ISP เฝ้าตรวจสอบการดำเนินงานในเรื่องนี้ตลอดเวลา และรายงานให้สำนักงาน กสทช. ได้ทราบว่าภายหลังจากได้รับคำสั่งศาลแล้วได้มีการดำเนินการอย่างไร

สำหรับขั้นตอนในการดำเนินการกับเว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาที่ผิดกฎหมายขณะนี้กระทรวงดีอีเป็นผู้รับผิดชอบตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และเป็นผู้ดำเนินการขอออกหมายศาล จากนั้นดำเนินการส่งหมายศาลตรงไปยังเฟซบุ๊ก หรือยูทูบ หรือหรือผู้ที่กระทำผิดต่อกฎหมายโดยตรง โดยจะมีสำเนาส่งมาที่สำนักงาน กสทช. เพื่อให้สำนักงานฯ ได้ติดตามตรวจสอบกับทาง ISP อีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือเชิญบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด และบริษัท ไลน์ พลัส คอร์ปอเรชั่น จำกัด เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเปิดตัว ซิมการ์ดของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหม่ในประเทศไทย ที่ชื่อว่า LINE mobile ซึ่งมีลักษณะเป็นการให้บริการร่วมกับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ในวันพฤหัสบดีที่ 15 มิ.ย. 2560 ตามที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามา โดยเรื่องนี้เป็นกระบวนการดำเนินงานของสำนักงาน กสทช. ที่ต้องตรวจสอบว่าการให้บริการดังกล่าวเข้าลักษณะการประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ไม่มีโครงข่ายโทรคมนาคมเป็นของตนเอง (MVNO) ที่ต้องมีใบอนุญาตตาม พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544  จาก กสทช. หรือเป็นเพียงการให้บริการเสริม ซึ่งหากเป็น MVNO ทางบริษัทต้องมายื่นขอใบอนุญาต แต่หากเป็นแค่บริการเสริมภายใต้แพ็กเกจต่างๆ ก็ไม่ต้องขออนุญาตจากสำนักงาน กสทช. ดังนั้นจึงได้มีหนังสือเชิญทั้งสองบริษัทเข้าชี้แจงเพื่อที่จะได้ทราบข้อเท็จจริงในการพิจารณาเรื่องนี้

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ