วันนี้ (15 มิ.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย สอบปากคำนักศึกษาชายหญิงรวม 8 คน ที่เดินทางไปฝึกประสบการณ์ฟาร์มในเกาหลีใต้ ตามโครงการความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยฯ กับองค์กร "นิติบุคคล โอลไลฟ์ ประเทศเกาหลี" แต่ทั้งหมดเดินทางกลับประเทศไทยก่อนกำหนด และเข้าร้องทุกข์ว่า ถูกส่งไปทำงานหนักเหมือนแรงงานที่ไม่ใช่นักศึกษา และผู้หญิงถูกลวนลาม รวมทั้งยังสงสัยว่ามีการจ่ายเงินค่าแรงงานให้คนอื่น ทั้งที่เป็นการฝึกประสบการณ์
นายเจริญ เชื้อเมืองพาน ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย ชี้แจงว่า โครงการนี้เกิดขึ้น หลังจากนิติบุคคลดังกล่าว มีโครงการจะเข้ามาทำแปลงเกษตรในเชียงราย จึงได้ประสานความร่วมมือกับทางวิทยาลัยฯ เพื่อนำเด็กที่เรียนรู้ด้านการเกษตรอยู่แล้ว ไปฝึกประสบการณ์ช่วงซัมเมอร์ที่ฟาร์มในเมืองซุงจู จังหวัดซุงซองบุกโด ประเทศเกาหลีใต้ โดยได้ทำบันทึกข้อตกลงกันระหว่างนิติบุคคลดังกล่าวกับวิทยาลัยฯ รวมถึงสำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดเชียงราย ด้วย
ที่ผ่านมาส่งนักศึกษาไปแล้ว 2 รุ่น รุ่นที่เกิดปัญหาเป็นรุ่นที่ 3 กำหนดระยะเวลา 3 เดือน จะครบกำหนดกลับวันที่ 22 มิถุนายนนี้ เมื่อครบกำหนดแต่ละคนจะได้รับทุนการศึกษาคนละ 20,000 บาท แต่เกิดปัญหาขึ้นก่อน
ส่วนเรื่องเงินค่าจ้าง ได้รับแจ้งจากเจ้าของฟาร์มว่าเด็กๆ สอบถาม แต่เนื่องจากสื่อสารกันด้วยภาษาเกาหลีไม่ได้ เด็กจึงใช้แอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์มือถือแปลภาษา แล้วตีความไปว่าเจ้าของฟาร์มได้จ่ายเงินค้าจ้างให้ผู้ประสานงานแล้ว จึงใช้งานพวกเขาได้ ทั้งๆ ที่เจ้าของฟาร์มบอกเพียงว่า “ได้จ่ายค่าเครื่องบิน และดูแลตามโครงการ จึงให้เด็กทำงานในฟาร์มเท่านั้น”
อย่างไรก็ตามทางวิทยาลัย จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในวิทยาลัย 1 ชุด และสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคเหนือ ก็จะตั้งคณะกรรมการมาอีก 1 ชุด ซึ่งก็จะทำให้ได้ข้อเท็จจริงต่อไป เพราะที่ผ่านมามีเพียงคำให้การของเด็กผ่านไลน์เท่านั้น ส่วนการดำเนินโครงการต่อ ก็ต้องทำรายละเอียดการส่งนักศึกษาไปให้ละเอียด เช่น เรื่องการฝึกภาษา ซึ่งยอมรับว่าระยะเวลาสั้นเพียงแค่ 3 เดือนนั้นกระชั้นชิดเกินไป ทำให้ไม่มีความชัดเจนเรื่องตารางการฝึกงานในแต่ละวัน