ไขปริศนา “สาวเบลเยียม” ตายเชือกรัดคอ ที่เกาะเต่า


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กลายเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลต่อการท่องเที่ยวอย่างมากในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับการพบศพหญิงสาวชาวเบลเยียม เสียชีวิต ที่บริเวณอ่าวโตนด มีสภาพเชือกรัดคอและห้อยอยู่บนกิ่งไม้ แม้ว่าพยานหลักฐานทั้งหมดเจ้าหน้าที่บ่งชี้ว่ามีโอกาสสูงที่จะเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังมีหลายประเด็นที่ยังไม่คลี่คลาย เราจะไปกันที่เกาะเต่าและเกาะพะงัน เพื่อดูว่า มีหลักฐานอะไรบ้าง

วันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบศพบริเวณทางเดินขึ้นสู่จุดชมวิว ทราบชื่อคือนางสาวอีลีส ดัลเลอมานจ์ ชาวเบลเยียม วัย  28 ปี สภาพมีเชือกรัดที่คอและห้อยจากกิ่งไม้ ปลายเท้าห่างจากพื้น 2-3 เมตร จุดเกิดเหตุ พบย่ามสะพาย ซึ่งคาดว่าเป็นของผู้ตาย ภายในมีโน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง กระเป๋าเงิน 1 ใบ ขวดเหล้าภายในบรรจุน้ำมันเบนซิน 1 ขวด และจดหมายเขียนด้วยลายมือ 1 ฉบับ ผลการชันสูตรเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-6 วันและสาเหตุคือขาดอากาศหายใจจากการมีเชือกรัดคอ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ขัดขืน และไม่มีร่องรอยถูกล่วงละเมิดทางเพศ



จากนั้นตำรวจจึงทำการสืบประวัติพบว่าก่อนเสียชีวิตหญิงสาวรายนี้เคยไปอยู่ที่เกาะพะงัน ประมาณ 1 ปีเศษ และสืบทราบว่าวันที่ 17 เมษายน หรือ 10 วันก่อนพบศพ นางสาวอีลิส ได้สไกป์คุยกับมารดา บอกว่า จะกลับบ้านเกิดภายในสิ้นเดือนเมษายน ข้อสังเกต จึงเกิดขึ้นว่า ทำไมเธอถึงเลือกแวะมาที่เกาะเต่าก่อนกลับบ้านเกิด


วันที่ 19 เมษายน 60  อีลิส ดัลเลอมานจ์ เข้าพักที่บังกาโลแห่งหนึ่งบนเกาะเต่า โดยเจ้าของบังกะโล นางหลงมา ศิริวัฒน์ ได้บอกกับทีมข่าว PPTV ว่า ผู้ตายเข้าพักประมาณบ่าย 2 และใช้ชื่อปลอมในการเข้าห้องพัก เจ้าของบังกะโล ยืนยันว่า อีลิส เขียนชื่อจริงของเธอลงไปก่อน แต่อยู่ดีๆก็ขีดฆ่าชื่อเดิมทิ้งแล้วเขียนชื่อปลอมลงไปแทน

รายละเอียดวันนั้น เจ้าของบังกะโลเล่าว่านางสาวอีลิส พร้อมด้วยกระเป๋าสะพายหลัง 1 ใบและย่าม 1 อันเลือกบังกาโลที่มีราคาถูกที่สุดคือ 400 บาท ซึ่งทำมาจากไม้ไผ่ทั้งหลัง โดยเธอเน้นเลือกบ้านที่ทำมาจากไม้ไผ่ทั้งหลัง ทั้งที่หลังที่ทำจากปูนราคาประมาณ 500-600 บาท แพงกว่านิดหน่อยเท่านั้น จากนั้นก็เข้าๆออกๆบังกะโลอยู่ทั้งวัน

จนเวลาประมาณ 21.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้บังกะโลที่รีสอร์ทแห่งนี้ บังกะโลที่ทำมาจากไม้ไผ่ทั้ง 4 หลัง ถูกเพลิงเผาวอดวายหมด และนางสาวอีลิส หายตัวไปตั้งแต่ไฟไหม้ โดยและไม่มีใครตามตัวพบ เจ้าของบังกะโล อ้างว่า ต้นเพลิงมาจากห้องของสาวเบลเยียมคนนี้ และสาเหตุของไฟไหม้ในคืนนั้น ก็ยังเป็นปริศนาอีกข้อหนึ่ง

อย่างที่ทราบกันไปแล้ว ว่า ตำรวจอ้างข้อมูลว่า นางสาวอีลิสเคยพยายามฆ่าตัวตายในวันที่ 4 เมษายน 60 โดยการวิ่งเข้าไปให้รถไฟชน แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่รถไฟ สน.นพวงศ์ กรุงเทพฯ อยู่แถวนั้นจึงเข้าไปช่วยไว้ได้ทัน  เมื่อดูจาก ลำดับเหตุการณ์ทั้งหมด อาจจะพอเห็นได้ว่า ทำไมน้ำหนักของการเสียชีวิต จึงยังอยู่ที่ประเด็นการฆ่าตัวตาย มากกว่าการฆาตกรรม เริ่มจากวันที่ 4 เมษายน 60 นางสาวอีลิส พยายามฆ่าตัวตายที่กรุงเทพ ก่อนจะถูกทำตำรวจช่วยไว้และพาไปรักษา
 

17 เมษายน  60 ยังไม่มีใคระบุได้ชัดเจน ว่า อิลิส อยู่ที่ไหน แต่มีหลักฐานว่า เธอใช้ “สไกป์” คุยกับแม่ว่าจะกลับบ้านเกิดภายในสิ้นเดือนนี้  วันที่ 19 เมษายน 60 มีหลักฐานระบุว่า อีลิส อยู่ที่เกาะเต่า เข้าพักที่บังกะโล ซึ่งอยู่ตรงข้ามคนละฝั่งของเกาะ กับจุดที่พบศพ และคืนนั้นเกิดเหตุเพลิงไหม้บังกะโล โดยเจ้าของอ้างว่า ต้นเพลิงน่าจะมาจากห้องพักของเธอ และเธอหายตัวไป  21 เมษายน 60 พบภาพ อิลิส อยู่คนเดียว ใช้บัตรเครดิต ซื้อข้าวและตั๋วกลับชุมพร แต่ไม่ได้กลับไป จากนั้น พบเธออีกครั้ง วันที่ 27 เมษายน ซึ่งเธอเสียชีวิตไปแล้ว


เมื่อดูลำดับเหตุการณ์ จะยังพบปริศนาว่า เธอมาที่เกาะเต่าทำไม เพราะวันที่มาก็เกิดเหตุไฟไหม้บังกะโล และเธอก็ยังหายตัวไปตั้งหลายวัน กว่าจะมีคนมาพบว่าเสียชีวิต ที่สำคัญ คือ กระเป๋า ของเธอ ถูกทิ้งอยู่บนเรือเฟอรี่ และเรือแล่นกลับไปที่ชุมพร โดยไม่ทราบว่า เธอลืมหยิงลงมา หรือ จงใจทิ้งไว้กันแน่

 

8.00 น. เช้าวันที่ 21 เมษายน 60  ทีมข่าวพีพีทีวีลองมาขยายภาพวันนี้อีกที เพราะมีภาพของ อีลิส ปรากฏตัว 2 วัน หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้  ในภาพ นางสาวอีลิส ดัลเลอมานจ์ เดินทางมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเพื่อซื้ออาหารและแพคเกจการเดินทางกลับ แต่จุดสังเกตคือพยานเล่าว่า นางสาวอีลิสมีลักษณะซึมเศร้าผิดปกติ

ข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือ การซื้อตั๋วเรือกลับของเธอ อาจไม่มีเป้าหมายเพื่อเดินทางกลับ เพราะเธอไม่ได้นั่งเรือกลับไป จึงเป็นไปได้ว่า เธอต้องการใช้บัตรเครดิตเท่านั้น เพราะเจ้าของร้านเล่าว่า นางสาวอีลิสสั่งข้าวและจะใช้บัตรเครดิตในการจ่าย แต่เนื่องจากยอดไม่ถึง 1,000 บาท ทำให้ต้องซื้อแพคเกจการเดินทางกลับเพื่อทำให้บัตรเครดิตใช้การได้



หลังซื้อข้าวเสร็จ นางสาวอีลิสได้เดินผ่านกล้องวงจรปิดอีกจุดหนึ่ง ซึ่งจับภาพไว้ได้ตอนประมาณ 9.00 น. จากภาพไม่มีใครเดินมาด้วย และมีคนตั้งข้อสังเกตว่า มี “ขวดน้ำมัน” หายไปในช่วงเวลานี้ ซึ่งในจุดที่พบศพ มีขวดน้ำมันเบนซิน ตกอยู่ด้วย ทีมข่าว สอบถามเจ้าของร้านน้ำมัน ได้ข้อมูลว่า ปกติแล้วขวดน้ำมันจะตั้งอยู่ ไม่มีใครดูแล เมื่อมีผู้ต้องการซื้อ ก็จะเรียกจึงจะออกมาบริการเติมให้ แต่ช่วงเกิดเหตุพบว่าน้ำมันหายไปขวดหนึ่งซึ่งไม่ทราบว่าหายไปตั้งแต่ตอนไหน


 

ก่อนจะไปยังจุดเกิดเหตุ ทีมข่าวจะสรุปให้เห็นเส้นทางของนางสาวอีลิส ในวันที่คาดว่าจะเสียชีวิตให้ดู  เริ่มจากไปซื้ออาหารตอน 9 โมงจากนั้นได้เดินเลียบชายหาดไปผ่านกล้องวงจรปิดบริเวณรีสอร์ทแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ตายประมาณ 300 เมตร และอาจจะแวะไปขโมยน้ำมัน ก่อนเดินขึ้นไปบนจุดชมวิว



จากภาพที่มี พบว่า นางสาวอีลิส ดัลเลอมานจ์ ได้เดินขึ้นไปที่จุดชมวิว อยู่บนที่สูง รอบข้างเป็นป่า คนบนเกาะเล่าว่าไม่ค่อยมีคนขึ้นมาที่นี่ และที่สำคัญระหว่างทางมีเชือกผูกตาข่ายใช้ชะลอหน้าดินอยู่เต็มไปหมด และเชือกชนิดนี้คือชนิดเดียวกับที่มัดอยู่รอบคอผู้ตาย



เมื่อประกอบกับภาพจากกล้องวงจรปิด ที่พบว่า เธออยู่คนเดียวก่อนเสียชีวิต ทำให้จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานใดสามารถบ่งชี้ไปถึงกรฆาตกรรมได้เลย เมื่อตำรวจพบว่า นางสาวอีลิส ทั้งเคยมีประวัติฆ่าตัวตาย ทั้งมีเหตุไฟไหม้บังกะโล จึงสืบยอแนกลับไปพบว่า เธอเคยไปใช้ชีวิตที่เกาะพะงัน ซึ่งที่นั่น มีสาขาของลัทธิจากอินเดียที่ชื่อว่า สัตยา ไส บาบา ตั้งอยู่ด้วย เป็นลัทธิที่ฝึกฝนเกี่ยวกับจิตใจ สมาธิ รวมทั้งมีคนกล่าวหาว่า ที่สาขาเกาะพะงันของลัทธินี้ มีพิธีกรรมบางอย่างเกี่ยวกับหญิงสาวที่น่าสงสัย ตำรวจจึงไปตรวจสอบที่เกาะพะงัน

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ