จากการที่ทีมข่าวนิวมีเดียพีพีทีวีได้ลงพื้นที่สำรวจทางเชื่อมบีทีเอสตลาดพลูที่เชื่อมไปยังเอ็มอาร์ทีราชพฤกษ์นั้น มีหลายจุดที่ดูเปลี่ยวและเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทางลงเพื่อจะเดินไปขึ้นบีทีเอสตลาดพลู ซึ่งพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่รกร้างมีกอหญ้าหนาสูงอยู่รอบบริเวณ เห็นแบบนี้ก็อดคิดไม่ได้ว่าหากต้องเดินทางในเวลากลางคืนจะมีความปลอดภัยได้อย่างไร
นี่คือเสียงสะท้อนของผู้ที่ใช้บริการทางเชื่อมแห่งนี้ ที่แสดงถึงความกังวลในเรื่องของความปลอดภัย โดยทางทีมข่าวพีพีทีวีได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์นางกัจยา โฆษิตกุลจร อาชีพแม่บ้าน หนึ่งในผู้ใช้บีอาร์ทีเป็นประจำทุกวัน บอกเล่าถึงความกังวลด้านความปลอดภัยว่าทางลงของทางเชื่อมฝั่งที่ไปบีทีเอสตลาดพลูนั้นค่อนข้างที่จะมีหญ้ารกมาก แม้จะมีรปภ.เดินสำรวจบริเวณนั้นแต่ก็ไม่ได้ทำทุกวัน สิ่งที่ตนกังวลมากที่สุดคือการที่มีคนจรจัดมาอยู่บริเวณนั้น ทำให้ไม่ปลอดภัยในการใช้บริการ เนื่องจากตนเองต้องรับส่งลูกเป็นประจำ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย โดยอยากให้เพิ่มเวรยามให้มากขึ้นและติดกล้องวงจรปิดรอบบริเวณ เผื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์จะได้มีหลักฐานเอาไว้ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่นางสาวจิดาภา สว่างวงศ์ พนักงานออฟฟิศ ผู้ใช้บริการบีอาร์ทีสถานีนี้เป็นประจำ กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มาใช้บริการที่สถานีนี้ว่าไม่ปลอดภัยเพราะเป็นสถานที่ค่อนข้างเปลี่ยวและเงียบ หากต้องกลับบ้านดึกคงจะต้องหลีกเลี่ยงกลับบ้านทางอื่น แม้มี รปภ.แต่ก็รู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากจำนวน รปภ. ไม่เพียงพอกับพื้นที่ที่ต้องดูแลซึ่งครอบคลุมทางเชื่อมบีอาร์ที ราชพฤกษ์ โดยเพื่อนตนก็เคยถูกรถเฉี่ยวในบริเวณดังกล่าวมาแล้ว
“อยากให้แก้ไขโดยการเพิ่มรปภ.ให้มากกว่านี้ ส่วนการติดกล้องวงจรปิดเหมือนเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแต่มีไว้ก้น่าจะดีกว่าไม่มี”
แม้แต่ผู้ที่เคยใช้บริการรถบีอาร์ทีเป็นครั้งแรกอย่างนางวรรณ เพียรโรคดี พนักงานบริษัท ยังรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของสถานีนี้ โดยบอกเล่ากับทีมข่าวว่า ทางเชื่อมที่จะเดินไปยังบีทีเอสตลาดพลูค่อนข้างไกล หากเป็นไปได้อยากจะให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างทางเชื่อมที่เดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้นและควรติดกล้องวงจรปิดเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
“สถานีตลาดพลูเปลี่ยวสมคำร่ำลืออย่างที่คนในอินเทอร์เน็ตได้บอกไว้ ขนาดมาตอนกลางวันตอนแรกที่เห็นยังรู้สึกว่าน่ากลัว ถ้าเลิกงานดึกคงต้องหลีกเลี่ยงเส้นทางนี้แน่นอน ”
ถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่าทางเชื่อมที่เปลี่ยวและดูจะอันตรายแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของใคร? ทางทีมข่าวพีพีทีวีจึงติดต่อสอบถามไปยังนาย สิทธิพร สมคิดสรรพ์ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมและประสานการขนส่ง กองการขนส่ง สำนักการจราจรและขนส่ง ได้ชี้แจงว่าทางเชื่อมนี้อยู่ในความรับผิดชอบของบีอาร์ทีซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงคือกรุงเทพมหานคร ซึ่งตรงสถานีบีอาร์ทีราชพฤกษ์นี้ได้สร้างทางเชื่อมเพื่อให้ประชาชนที่ใช้บริการบีอาร์ทีเดินทางไปบีทีเอสตลาดพลูได้สะดวก ส่วนคำถามที่ว่าทำไมถึงไม่สร้างให้ทั้งบีอาร์ทีและบีทีเอสเชื่อมกันเลยต้องขอตอบว่าเพราะไม่มีพื้นที่ในการก่อสร้าง
ด้านระบบรักษาความปลอดภัยนั้นทางเชื่อมแห่งนี้ จากการสอบถาม รปภ. ได้คำตอบว่าจะมี รปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงโดยจะแบ่งเป็นกะละ 2 คน จะทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม และกะต่อไปอีก 2 คน จะเข้างานเวลา 1 ทุ่ม ถึง 7 โมงเช้า เป็นประจำทุกวัน เพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร และที่ผ่านมายังไม่มีผู้โดยสารมาร้องเรียนถึงความไม่ปลอดภัยในสถานีดังกล่าว และยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีในบริเวณนี้ จึงอยากให้ผู้โดยสารมั่นใจในความปลอดภัยของทางเชื่อมนี้
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้บอกว่าในช่วงระยะเวลา 1 ปีกว่าที่ผ่านมาในพื้นที่บริเวณนี้ไม่การฉกชิงวิ่งราว หรือประชาชนถูกรถชนแต่อย่างใด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจะมีเจ้าหน้าผลัดเวรกันดูแลความเรียบร้อยในบริเวณดังกล่าวอยู่ตลอด ตั้งแต่เวลา ตี 5- 3 ทุ่ม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
แม้ทางรปภ.และตำรวจจะออกมาให้ความมั่นใจกับประชาชนถึงความปลอดภัยไร้กังวลในทางเชื่อมแห่งนี้ แต่ใครจะรู้อนาคตว่าอาชญากรรมจะเกิดขึ้นวันไหนเมื่อไหร่ ทางที่ดีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะหามาตรการรักษาความปลอดภัยมาเพิ่มเติม เพราะในสถานที่เปลี่ยวแบบนี้ย่อมเป็นที่หมายตาของอาชญากรที่จะลงมือ พร้อมทั้งควรติดกล้องวงจรปิดเสริมความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ
