สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ตนได้หารือทางโทรศัพท์กับประนาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แล้ว โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องว่าจะต้องดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างจริงจัง หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งที่สองเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนาย คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือประกาศว่า นี่เป็นการส่งสัญญาณเตือนว่า แผ่นดินสหรัฐทั้งหมดอยู่ในพิสัยการโจมตีของเกาหลีเหนือแล้ว ขณะที่ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันถึงพันธสัญญาที่เหนียวแน่นที่จะปกป้องญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จากการโจมตีใดๆ ก็ตาม ด้วยศักยภาพที่มีอย่างเต็มที่
ด้านรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แถลงข่าวเพิ่มเติมว่า ผู้นำญี่ปุ่นและผู้นำสหรัฐฯ เห็นพ้องว่าทั้งสองประเทศจะต้องร่วมมือกับเกาหลีใต้และประชาคมโลกในการดำเนินมาตรการลงโทษที่รุนแรงขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้จีนและรัสเซียกดดันเกาหลีเหนือมากขึ้น แต่ไม่ได้มีการหารือเรื่องการดำเนินการทางทหาร
ก่อนหน้านี้ นางนิกกี เฮลีย์ ทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น ออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐฯ จะไม่เสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปิดประชุมฉุกเฉินเพื่อออกมติประณามเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าคงไม่ได้ประโยชน์อะไร มีแต่จะทำให้เกาหลีเหนือได้ใจ คิดว่านานาชาติไม่กล้าทำอะไรจริงจัง
ขณะเดียวกันวันนี้ กองทัพสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบยิงสกัดขีปนาวุธในบริเวณพิกัดตำแหน่งสูง หรือ ทาด (THAAD) ที่ฐานทัพในรัฐอะแลสกา โดยขีปนาวุธข้ามทวีปพิสัยกลาง ถูกยิงออกจากเครื่องบินเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งปรากฎว่าระบบทาดสามารถตรวจจับ และยิงทำลายเป้าหมายได้สำเร็จ ซึ่งการทดสอบครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้ทางการเกาหลีเหนือ