ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปฏิบัติภารกิจประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ ได้เยี่ยมเยือนผู้คนและบ้านเรือนที่พังเสียหายในย่านชานเมืองกวัยนาโบ (Guaynabo) และเดินทางไปยังศูนย์ส่งต่อความช่วยเหลือ ที่เมืองซานฮวน ซึ่งเป็นเมืองเอกของเปอร์โตริโก เพื่อร่วมแจกสิ่งของบรรเทาทุกข์ ให้กับผู้ประสบภัยที่กำลังรอต่อคิวขอความช่วยเหลือ ด้วยท่าโยนม้วนกระดาษทิชชูแบบนักบาสเกตบอล และยังเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวเปอร์โตริโกเข้ามาถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกับเขาอย่างไม่ถือตัว
ขณะที่ สื่อต่างประเทศสำนักหนึ่ง ได้วิจารณ์ประธานาธิบดีสหรัฐฯว่า เขาไม่ได้เห็นอกเห็นใจ ครอบครัวของเหยื่อที่เกิดเท่าที่ควร หลังจากที่ทรัมป์กล่าว่าชาวเปอร์โตริโกควร ภูมิใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่เพราะมียอดผู้เสียชีวิตเพียง 17 หรือ 16 คน ต่างกับเมื่อครั้งที่พายุเฮอร์ริเคนแคทรีนาพัดถล่มในปี 2005 ที่ทำให้ผู้คนเป็นร้อย เป็นพันคนต้องตาย โดยภายหลังประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางกลับ ผู้ว่าการเกาะเปอร์โตริโก ได้ออกมาประกาศว่า จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 34 คน
ภายหลังจากพายุเฮอร์ริเคนมาเรียพัดขึ้นเกาะ เมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้ทำให้ชาวเปอร์โตริโกกว่า 3 ล้านคน ขาดแคลนน้ำมัน ไม่มีไฟฟ้าและน้ำปะปาใช้ และทำให้ผู้คนอีกร้อยละ 88 ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
เมื่อกลับถึงทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ดำเนินการเตรียมยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือภัยพิบัติมูลค่า 29,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 970,000 ล้านบาท แก่รัฐสภาทันที เพื่อนำไปฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยในเกาะเปอร์โตริโก รัฐเท็กซัส และรัฐฟลอริด้า
