เมื่อวันที่ (24 พ.ย. 60) นายไชยวัฒน์ วรเชฐวราวัตร นักวิ่ง เบตง – แม่สาย คนแรกของไทย เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นในการวิ่งผ่านรายการ เป็นเรื่องเป็นข่าวว่า การวิ่งครั้งนั้นเมื่อปี พ.ศ. 2529 เริ่มมาจากอาจารย์ที่วิทยาลัยครูเพชรบุรี ได้เรียกมานั่งคุยกันว่าจะวิ่งไหวหรือไม่ ในระยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตร ตอนนั้นก็ตอบว่าไหว เพราะแรงบันดาลใจตอนที่ไปเป็นครูฝึกสอนได้พบกับเด็กคนหนึ่งที่ไปขโมยข้าวเพื่อนกินกล่องละคำๆ จุดทำให้รู้สึกว่าอาหารกลางวันในนั้นยังขาดแคลนอยู่มาก จึงตัดสินใจวิ่งเพื่อให้เด็กมีทุนเพื่อกินอาหารกลางวันจากนั้นได้ทำเรื่องไปหาผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเพื่อขอวิ่งผ่าน โครงการอาหารกลางวัน คือ โรงเรียนจะทำอาหารขายเด็กมื้อละ 2 บาท และให้เด็กกินให้อื่มเพราะโรงเรียนยอมขาดทุนเพื่อให้เด็กกินอาหารให้อิ่ม ส่วนใครจะมีจิตศรัทธาจะบริจาคเพิ่มเติมเพื่อให้ขาดทุนช้าลง เพื่อให้โรงเรียนมีปัจจัยอยู่ต่อได้
สาเหตุที่เลือกอำเภอเบตงเป็นจุดเริ่มต้นในการวิ่ง เพราะส่วนตัวอยากจะไปเที่ยวอยู่แล้ว พร้อมกับสมัยนั้นไม่ค่อยมีใครอยากจะไปเที่ยวเนื่องจากทางคดเคี้ยว เมื่อ 30 ปีที่แล้ว สภาพบ้านและถนนก็แตกต่างจากปัจจุบันมาก
ข้อแตกต่างจากการวิ่งเมื่อ 30 ปีที่แล้วกับการวิ่งของตูน บอดี้สแลมนั้น คือ เรื่องของการสื่อสาร สมัยก่อนโทรศัพท์มือถือไม่มีใช้ก็จะใช้โทรศัพท์เป็นหลักในการประสานงานแจ้งข่าวสารถึงระยะทางการวิ่งว่าอยู่จุดไหนแล้ว ในขณะที่วิ่งก็ไม่มีแพทย์ประจำตัวหากเกิดเจ็บป่วยก็อาศัยไปหาตามโรงพยาบาลนั้นๆ ที่วิ่งผ่าน ตอนจะนอนก็อาศัยนอนตามโรงเรียนที่ประสานงานไว้
เริ่มวิ่งตอนเช้าตี 3 ถึง 8 โมงเช้าได้ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร การวิ่งตอนเช้ามืดข้อดีคือ จะทำให้ไม่เสียแรงมาก ไม่เสียเหงื่อเพราะอากาศยังไม่ร้อน ใช้ระยะเวลาการวิ่งตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม ใช้เวลาวิ่งประมาณ 2 เดือน 12 วัน วิ่งผ่าน 24 จังหวัด ยอดบริจาคครั้งเกิน 2 ล้านบาท
สิ่งที่ยากที่สุดในตอนวิ่งกว่า 2,000 กิโลเมตร คือ ช่วงที่ขาดการติดต่อในขณะที่ตนเองป่วย แต่ก็ผ่านจุดนั้นมาได้ แต่สิ่งที่ประทับใจไม่มีวันลืมคือวันที่วิ่งไปถึงเส้นชัยที่อำเภอแม่สายมีเด็กเอาเงิน 1 บาทมาบริจาคค่าอาหารกลางวันพร้อมกับลำไย เพราะสิ่งที่เด็กมอบให้สิ่งเหล่านั้นจะกลับสู่ตัวเด็กเอง จากนั้นก็ได้ขึ้นพูดถึงคุณค่าของอาหารว่าอย่ากินทิ้งขว้างและตักข้าวแจกเด็กๆไปด้วย
สิ่งที่ตูน บอดี้สแลม จะต้องหนักใจที่ในเรื่องของเส้นทางคือ ถ้าเลยจังหวัดตากไปแล้วภูเขาจะเยอะและจะต้องเสียแรงมากขึ้นเพื่อที่จะขึ้นเขา ถ้ากล้ามเนื้อไม่แข็งแรงจะเจ็บปวดมากกว่านี้ จากการที่ตูน บอดี้สแลม วิ่งไปและหยุดถ่ายรูปไป ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บสะสม อาจจะทำให้ต้องหยุดพักเป็นเวลานาน อยากให้ประชาชนที่มาต้อนรับรวมเป็นจุดเดียวเพื่อไม่ให้ตูน บอดี้สแลม ต้องหยุดวิ่งบ่อย ป้องกันปัญหาอาการบาดเจ็บเพิ่มเติม เพื่อให้ตูนสามารถวิ่งนำเงิน 700 ล้าน สู่เป้าหมายในการช่วย 11 โรงพยาบาลได้สำเร็จ
ชมคลิปเต็มได้ที่ : เปิดใจนักวิ่ง “เบตง-แม่สาย” คนแรกของประเทศไทย ค่ำไหนนอนนั่น หาทุนอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียน