นางจันทิรา วิวัฒน์รัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการส่งออกของไทยในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ คือ ราคาน้ำมัน ราคาสินค้าเกษตร ค่าเงินของทั้งประเทศคู่ค้าและประเทศคู่แข่ง แต่จะยังไม่ปรับเป้าหมายส่งออกที่ตั้งไว้ร้อยละ 4 โดยจะติดตามสถานการณ์ ทั้งราคาน้ำมันและค่าเงินอย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนการส่งออกเดือน ม.ค.ที่ติดลบนั้น นอกจากจะมีปัจจัยจากราคาสินค้าเกษตรและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดต่ำลงค่อนข้างมากแล้ว ตลาดสำคัญอย่างญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปก็กลับมาหดตัวอีกครั้ง ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ช้ากว่าคาดการณ์ ประกอบกับการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย (QE) ส่งผลให้ค่าเงินเยนและยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินบาทอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ตลาดสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศ CLMV ยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง โดยตลาดสหรัฐฯ มีสัญญาณการฟื้นตัวดี ทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวที่ร้อยละ 6 เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันตามปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งจากทิศทางการจ้างงานที่ดีขึ้น ทำให้การบริโภคสินค้าคงทนและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว
นอกจากนี้ การนำเข้าหดตัวร้อยละ 13.33 มูลค่านำเข้า 17,705 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ดุลการค้าของไทยเดือน ม.ค. 58 ขาดดุล 457 ล้านเหรียญสหรัฐ