เบาะแสจากวงจรปิดไม่เหลือตร.เตรียมนำคู่กรณีแย่งรางวัลที่ 1 เข้าเครื่องจับเท็จ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




การให้ข้อมูลของอดีตตำรวจ และคุณครู ในคดีกล่าวหากันว่า ขโมยสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 30 ล้าน ที่ต่างฝ่ายต่างยืนยันว่า เป็นเจ้าของตำรวจ ยอมรับว่าการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ต้องใช้เวลา เนื่องจากต้องทำให้พยานหลักฐานทุกขั้นตอนเป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด

เมื่อวันที่ (7 ธ.ค. 60)  ทีมข่าว PPTV ลงพื้นที่ตลาดเรดซิตี้ จังหวัดกาญจนบุรี  จุดที่ นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี อ้างว่า ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่นี่ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ก่อนจะทำหล่นหาย โดยกล่าวหาว่า นายจรูญ วิมล เป็นผู้เก็บไป ขณะที่นายจรูญก็อ้างว่า ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวัน 1 พฤศจิกายน 2560 จากในวันเดียวกัน คือ 31 ตุลาคม

เมื่อเดินทางมาถึง ทีมข่าวพบว่า มีกล้องวงจรปิดติดอยู่รอบบริเวณของตลาด ก่อนจะได้พบกับเจ้าของตลาด  เจ้าของตลาด เปิดเผยว่า  ยินดีให้ทุกฝ่ายตรวจสอบกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีตำรวจหรือ คู่กรณี มาขอดูภาพจากกล้องของตลาด และปัญหาคือ วงจรปิดที่ตลาดแห่งนี้ติดตั้ง สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้เพียง 15 วัน นั่นหมายความว่า ภาพที่จะพิสูจน์ได้ว่า คู่กรณีเดินทางมาที่ตลาดแห่งนี้ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม หรือไม่ ถูกลบไปแล้ว 

ข้อมูลกล้องวงจรปิด เป็นหนึ่งในหลักฐานที่ตำรวจ ระบุว่า ใช้ยืนยันข้อมูลได้ว่า วันที่ 31 ตุลาคม ทั้งสองฝ่ายได้มาตลาดจริงหรือไม่ แต่เมื่อไม่มีหลักฐานชิ้นนี้แล้ว ต้องนำหลักฐานอื่นมาประกอบการพิจารณาแทน เช่น พยานบุคคล ผลตรวจ ดีเอ็นเอ บนสลากกินแบ่งรัฐบาล และ ซองใส่ โดยวิธีการที่จะพิสูจน์เบื้องต้น เตรียมนำคู่กรณี ทั้งนายปรีชา และนายจรูญ เข้าเครื่องจับเท็จ หลังได้สอบปากคำทั้งคู่ รวมถึงพยานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

พล.ต.ต.สุทธิ ผู้กำกับการ ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ยืนยันว่า ตำรวจไม่มีส่วนรู้เห็น หรือ ตั้งเป็นขบวนการสวมสิทธิ์รางวัลที่ 1  ตามที่ นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ทนายความฝ่ายนายจรูญ กล่าวอ้างไว้ พร้อมชี้แจงกรณีที่ เรียก อดีตตำรวจ ไปพูดคุยที่บ้านพัก เนื่องจาก นายจรูญ เข้ามาให้ข้อมูลในช่วงเย็น หลังเวลาราชการ จึงให้ไปพบที่บ้านพัก ถือเป็นเรื่องปกติ และเหตุการณ์วันนั้น ไม่มีการบังคับข่มขู่เกิดขึ้น

ส่วนเงินจำนวน 15 ล้าน ที่นายปรีชา บอกว่า จะแบ่งให้คนละครึ่งยอมรับว่า ได้ยินจริง แต่เป็นการพูดคุยกันที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี  หลังจากวันที่เข้ามาพบที่บ้านพัก  โดยหลังจากนี้ตำรวจจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ส่งฟ้องให้ศาลพิจารณา

ส่วนประเด็นที่ครูปรีชา ยืนยันว่า ตัวเองเป็นคนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 โดยมีพยานบุคคลเป็นแม่ค้าสลากกินแบ่งฯ และ ต้นขั้ว  ทีมข่าว สอบถามไปยัง แม่ค้าที่เห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่า ครูปรีชา เดินทางซื้อสลากฯจริง มีหลักฐานเป็นต้นขั้ว ที่ระบุว่า เลขชุดรางวัลที่ 1 ฉบับดังกล่าว มีขายเฉพาะที่แผงค้านี้เท่านั้น โดยเลขดังกล่าวเป็นเลขชุด และเลขมงคล จึงเก็บไว้ให้ลูกค้าประจำ เป็นไปไม่ได้ที่แผงอื่นในตลาดจะมีขายเลขดังกล่าว

นอกจากนี้แม่ค้าที่เห็นเหตุการณ์และขายอยู่แผงใกล้กับแม่ค้าที่อ้างว่า ขายให้กับนายปรีชา ยังเปิดเผยว่า มีหลักฐานสำคัญ คือ ภาพถ่ายสลากกินแบ่งฯฉบับดังกล่าว ที่ถ่ายไว้ก่อนขายให้กับนายปรีชา แต่เมื่อทีมข่าวขอดู แม่ค้าบอกว่า ขอเก็บไว้เป็นหลักฐานในชั้นศาลเท่านั้น

นอกจากแม่ค้าขายสลากฯ  เพื่อนครูที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกันกับนายปรีชา ยังบอกกับทีมข่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษจิกายน เป็นต้นมา ครูปรีชา ขออนุญาตโรงเรียน ออกไปทำธุระเรื่องสลากกินแบ่งฯหลายครั้ง โดยบอกกับเพื่อนครูหลายคนว่า ตนเอง ถูกรางวัลที่ 1 แต่สลากกินแบ่งฯหาย จึงขอออกไปติดต่อกับตำรวจ

ทีมข่าวพยายามติดต่อไปยังนายปรีชา ให้ข้อมูลเพียงสั้นๆ โดยยืนยันเป็นคนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับที่กำลังเป็นปัญหาอยู่อย่างแน่นอน  ส่วนนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของฝั่งนายจรูญ วันนี้เปิดเผยหลักฐานใหม่ โดยระบุว่า  ฝ่ายตัวเองมีพยายานบุคคลที่รู้เห็นเรื่องการซื้อสลากกินแบ่งฯ ในตลาดเรดซิตี้ ที่อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี  พยานคนนี้ส่งข้อความผ่านข้อความเฟชบุ๊กส่วนตัว แจ้งว่า เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ได้เดินทางไปซื้อสลากกินแบ่งฯที่มีเลขท้าย 2 ตัว ลงท้ายตัว 26  ขณะอยู่ที่ตลาด พบว่ามีแม่ค้า มาเสนอขาย ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ออกมาให้ข่าวว่าเป็นคนขายให้กับนายปรีชา ขัดแย้งกับ แม่ค้า ที่ระบุก่อนหน้านี้ว่า จะเก็บไว้ขายให้กับ ครูปรีชา ในฐานะลูกค้าประจำ นายษิทรา จึงเชื่อว่า คำพูดของแม่ค้า ที่เปิดเผยกับสื่อต่างๆ ไม่เป็นความจริง

 

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ