เมื่อวันที่ (3 ม.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพเมื่อเวลาประมาณ 2 นาฬิกาเมื่อคืนนี้ ซึ่งมีหญิงสาวรายหนึ่ง จ่ายเงิน 500 บาท จ้างให้จักรยานยนต์รับจ้างที่ว่าจ้างมาจากย่านลาดพร้าว มาถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กในขณะที่เธออยู่บนสะพานพระราม 8 โดยหญิงรายนี้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปีนขึ้นไปบนราวสะพาน ข้ามไปฝั่งด้านนอกราวสะพาน ก่อนจะตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า จักรยานยนต์รับจ้างที่ไปถือโทรศัพท์ให้ อาจมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ ที่ไม่ห้ามปรามในขณะที่เห็นคนกำลังจะฆ่าตัวตาย แม้ว่าในกรณีนี้จะยังไม่แน่ชัดว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือพัดตกลงไปก็ตาม
ถ้าดูจากที่เกิดเหตุ สายตรวจสน.บวรมงคล เข้าตรวจสอบพบว่า บนสะพานมีขวดสุรา โทรศัพท์มือถือ บัตรประชาชน ระบุชื่อ น.ส.นิตยา สวัสดิวรรณ หรือ เชียร์ อายุ 18 ปี ชาวจังหวัดระนอง ประเด็นที่มีนักฏฎหมายชี้ว่า จักรยานยนต์รับจ้างรายนี้ อาจมีความผิดด้วยฐานไม่ห้ามในขณะที่เห็นคนกำลังฆ่าตัวตาย พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผู้กำกับการ สน.บวรมงคล ระบุว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำจักรยานยนต์รับจ้างคนนี้แล้ว เขายืนยันไม่ทราบว่า น.ส.นิตยาจะกระโดดลงไปในน้ำ จึงไม่ได้ห้าม จึงยังไม่พบว่ามีความผิดและไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ พร้อมย้ำว่า ต้องดูเจตนาของผู้ถ่ายภาพด้วย ก่อนจะไประบุว่ามีความผิดหรือไม่
ส่วนการสอบปากคำญาติของ นางสาวนิตยา ที่อยู่ในกรุงเทพฯ พบว่า ญาติไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงเช่นกัน เพราะไม่ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน และ น.ส.นิตยา ไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ทราบ ส่วนแฟนหนุ่มของนางสาวนิตยายังไม่สามารถติดต่อได้
ด้านการค้นหา น.ส.นิตยา จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบร่างของเธอ จึงไม่สามารถยืนยันว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว โดยตำรวจประสานทั้งกู้ภัย เรือโดยสาร ให้ช่วยตรวจสอบ หากพบให้แจ้งตำรวจทันที
แม้ตำรวจท้องที่จะยังไม่ตั้งข้อหากับ วินจักรยานยนต์รับจ้าง ที่เป็นคนถือโทรศัพท์ไลฟ์สด เหตุที่หญิงสาวตกสะพาน แต่ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้านกฎหมายและคดี เห็นว่า คนที่ไลฟ์สดหรือคนที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ เข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 374 ซึ่งระบุว่า ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิตซึ่งตนอาจช่วยได้ แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีที่จยย.รับจ้าง อ้างว่าไม่ทราบว่าหญิงคนดังกล่าวจะโดดสะพานนั้นเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ได้ เพราะหญิงสาววันย 18 ปี ไปนั่งบนราวสะพานด้วยอาการมึนเมา
“ตามหลักวิญญูชนแล้ว แค่เห็นคนขึ้นไปนั่งบนราวสะพาน ดื่มสุราจนเมา มีท่าทางเศร้าโศก ยืนหันหน้าไปทางฝั่งแม่น้ำทำท่าจะกระโดดก็ต้องห้ามปราม หยุดยั้ง แค่ลักษณะขึ้นไปบนคอสะพานก็รู้แล้วว่าเป็นอันตราย มีความเสี่ยง เพราะคนทั่วไปคงไม่ไปถ่ายรูปเล่นในลักษณะนั้น ฝากไปถึงประชาชนทั่วไปถ้าเห็นคนกำลังฆ่าตัวตาย หรือกำลังได้รับอันตราย แต่ไม่ช่วยก็จะมีความผิดตามมาตราดังกล่าวด้วย”
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับแม่ค้าใต้สะพานพระราม 8 ที่ค้าขายในบริเวณดังกล่าวมากว่า 10 ปี บอกว่า สะพานพระราม 8 มากจากมีคนเข้ามาพยายามฆ่าตัวตายอยู่เป็นประจำที่ผ่านมามีทั้งรอดชีวิตและเสียชีวิตแต่ส่วนใหญ่ก็จะมารอดชีวิต สำหรับพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบหลายพื้นที่ ทั้งสน.บวรมงคล สน.ชนะสงคราม และ สน.บางยี่ขัน ทีมข่าวพบว่าประตูทางเข้าสำหรับคนเดิมจะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินข้ามสะพานได้ แต่หลังจาก 4 ทุ่ม บริเวณสวนสาธารณะจะปิด แต่คนยังสามารถเดินเข้าไปได้เพื่อขึ้นสะพานพระราม 8 ล่าสุด สน.บางยี่ขันได้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นหลังเกิดเหตุดังกล่าว
โดยหลังจากนี้จะมีการประชุมร่วมกับพื้นที่ต่างๆ ให้เพิ่มมาตรการความเข้มงวด คนที่ขึ้นไปนั่งจับกลุ่มหรือนั่งดื่มแอลกอฮอล์บนสะพานพระราม 8 ที่ผ่านมามีการจับกุมไปหลายครั้ง แต่ก็ยังพบมีผู้ลักรอบขึ้นไปนั่งดื่มสุราในบริเวณดังกล่าว และนอกจากนี้จะเพิ่มมาตรการกับผู้ที่มีอารมณ์ไม่ปกติ ซึมเศร้าแล้วขึ้นไปนั่งอยู่บนสะพานเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำอีก
ส่วนที่ จ.ระนอง นางกาญจณา สุขุมวาท อายุ 73 ปี คุณยายของ น.ส.นิตยา อายุ 18 ปี ทราบว่า ปกติหลานเป็นคนร่าเริง อยู่ที่บ้านไม่เคยมีปัญหาอะไร ซึ่งหลังจากน้องจบ ม.3 ตามประสาวัยรุ่นที่อยากจะใช้ชีวิตส่วนตัว จึงเดินทางไป กทม.เพื่อทำงาน ซึ่งหลานก็โทรมาคุยกับยายอยู่บ่อยครั้ง โดยหลานบอกว่าอีกสักพักจะเข้าเรียนหนังสือต่อที่ กศน.เพื่อเอาวุฒิการศึกษาเพิ่ม เพื่อสะดวกในการทำงาน ที่ผ่านมาหลานไม่เคยบ่นว่ามีปัญหาอะไรในชีวิต แต่เมื่อวันที่ 1 มกราคมช่วงเย็น ๆหลานโทรมาอวยพรปีใหม่ แต่น้ำเสียงเหมือนกำลังร้องไห้ ยายจึงถามไปว่าเป็นอะไร แต่โทรศัพท์ของหลานก็หลุดไป