อิทธิพลจากพายุฤดูหนาวกำลังรุนแรงเทียบเท่าเฮอร์ริเคน หรือ “บอมบ์ ไซโคลน” ที่พัดถล่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดกระแสลมแรง หิมะตกหนัก และอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างเฉียบพลัน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนไม่ต่ำกว่า 60 ล้านคนที่อยู่ในเส้นทางของพายุ ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 17 คน
ส่วนการคมนาคมทั้งทางบก เรือและอากาศ ต่างก็ได้รับผลกระทบอย่างถ้วนหน้า โดยเฉพาะที่นครนิวยอร์ก ซึ่งทางการตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว หลังสนามบินนานาชาติ จอห์น เอฟ. เคนเนดี และสนามบินลากวาร์เดีย ต้องระงับการให้บริการทั้งหมด กระทบเที่ยวบินเกือบ 5,000 เที่ยว ส่วนทางบกก็เกิดอุบัติเหตุมากมายเพราะถนนลื่น แม้แต่รถไฟ ”แอมแทร็ก” ก็ต้องลดจำนวนขบวนที่วิ่ง เพราะสภาพอากาศไม่อำนวย
ที่นครบอสตัน คาดว่าจะมีพายุตกสะสมถึง 45 ซม. ขณะที่คลื่นสูงเกือบ 1 เมตรตามแนวชายฝั่งเริ่มทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ ล่าสุด ทางการสั่งระงับการเรียนการสอนในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ขณะที่ผู้คนกำลังเผชิญภัยหนาว แต่สัตว์ที่ยังดูร่าเริง มีชีวิตชีวา และใช้ชีวิตได้ตามปกติ คือ แพนด้าแดง ที่สวนสัตว์ในนิวยอร์ก ต่างจากตัว “อิกัวนา” ที่รัฐฟลอริดา ซึ่งไม่คุ้นเคยกับอากาศหนาวจัด ร่วงลงมาจากต้นไม้ นอนตัวแข็งอยู่ตามพื้น จนชาวเมืองต้องถ่ายคลิปมาลงโซเชียลมีเดีย
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า อุณหภูมิในหลายพื้นที่จะลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้