วันนี้ (9 ม.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.61) และเรื่องราวถูกเผยแพร่ผ่านเพจ ชาวเลราไวย์ โดยระบุว่า ชาวเลราไวย์ 6 คนถูกเจ้าหน้าที่อุทยานสิรินาถจับข้อหาจับสัตว์น้ำในเขตอุทยานฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะปรับเป็นเงิน 2,000-3,000 บาทแต่ชาวเลทั้ง 6 คนไม่ยินยอม อ้างว่าไม่ได้จับปลาในเขตอุทยานฯ ที่จอดเรือในเขตอุทยานฯเพราะ มีผู้ป่วยโรคน้ำหนีบ (โรคที่เกิดจากการดำน้ำ) อยู่บนเรือเท่านั้น
ด้านนายสนิท แซ่ซั่ว ตัวแทนชาวเลราไวย์ ยืนยันว่า ปลาที่เจ้าหน้าที่พบบนเรือของชาวเล เป็นปลาที่จับได้นอกเขตอุทยานฯ และบนเรือมีผู้ป่วยจากโรคน้ำหนีบจริง ที่ต้องจอดเรือในเขตอุทยานฯ เพราะต้องการให้ผู้ป่วยดำน้ำปรับสภาพ ขณะนี้ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวัชระภูเก็ต
ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานสิรินาถ มีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอขณะเข้าจับกุม โดยภายในคลิปเป็นช่วงขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ มีชาวเล 3 คน กำลังดำน้ำอยู่ และพยายามขึ้นจากเรือ ขณะที่เหลือกำลังปรุงอาหาร โดย 1 ใน 3 คนที่อยู่ในน้ำอยู่ใต้น้ำต่อท่อออกซิเจนลงไปใต้น้ำด้วย และไม่มีใครที่มีลักษณะว่าป่วย เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลาง เป็นสัตว์ทะเล ถึง 22 ชนิดรวม 123 ตัว น้ำหนักรวม 59.4 กิโลกรัม เช่น กุ้งมังกร ปลานกแก้ว ปลาเก๋า ปลิง ทะเลฯลฯ และอุปกรณ์หาปลาจำนวนมาก
ทั้งนี้ นาย วิทูรย์ เดชประมวลพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ยืนยันว่า ไม่ได้กลั่นแกล้งชาวเล ที่ผ่านมาได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบจับปลาในเขตอุทยานฯหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ทำการเข้มงวดกวดขันเป็นประจำ ทั้งหมดให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและหลักฐาน ซึ่งทางอุทยานฯมอบให้ตำรวจสถานีภูธรสาคู ไปตรวจสอบแล้ว