เมื่อวันที่ (2 ก.พ. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวะฝ่าวงล้อมสื่อ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี วันนี้ใช้ทีมรักษาความปลอดภัย นับ 10 คน ตั้งแถวซ้ายและขวา กันสื่อมวลชนรุมสัมภาษณ์หลังมีแรงกดดันอย่างหนัก จากโพลออนไลน์ และการเคลื่อนไหวเรียกร้อง ให้ “ลาออก” แสดงความรับผิดชอบ กับข้อครหาปกปิดบัญชีทรัพย์สินเป็นนาฬิกาหรูหลายสิบเรือน ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังเสร็จสิ้นภารกิจมอบนโยบายเกี่ยวกับการพิสูจน์สัญชาติ และออกใบอนุญาตแรงงานต่างด้าวที่ทำเนียบรัฐบาล
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบนาฬิกาหรู พลตำรวจเอกวัชรพล ประสานราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. คาดว่าจะสอบพยานแล้วเสร็จ ปลายเดือนนี้ ก่อนพิจารณาว่าหลักฐานเพียงพอนำไปสู่การตั้งอนุกรรมการไต่สวนหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า หากพล.อ.ประวิตรตัดสินใจลาออก ก็ไม่มีผลกับการดำเนินการของ ป.ป.ช.
ขณะที่กระแสกดดัน พล.อ.ประวิตร ให้ลาออกรับผิดชอบ ปมนาฬิกาหรู มีกระแสข่าวว่า ฝ่ายความมั่นคง ให้ทหาร ไปขอความร่วมมือ นิสิต-นักศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลี่ยงการล้อผู้นำและประเด็นนาฬิกาหรู ในงานฟุตบอลประเพณี ครั้งที่ 72 ในวันพรุ่งนี้
ทีมข่าวพีพีทีวี ได้สอบถามไปยังพลตรีสุวิทย์ เกตุศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ซึ่งดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ พลตรีสุวิทย์ ปฏิเสธไม่มีการสั่งห้ามและมองว่าเรื่องนี้เป็นงานประเพณีสร้างสัมพันธ์ที่ดีของ 2 มหาวิทยาลัย พร้อมย้ำว่า กองทัพมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัย และป้องกันมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์เท่านั้น สอดคล้องกับ พันเอกวิธัย สุวารี โฆษก คสช. ที่ชี้แจงว่า เป็นเพียงการขอความร่วมมือ ให้ระมัดระวังการแสดงออก ส่วนการพิจารณาว่ากิจกรรมใดมีความเหมาะสมหรือไม่ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐระดับปฏิบัติงาน โดยยังสอบถามกับแหล่งข่าวใน คสช. อีกคนหนึ่ง ได้รับคำชี้แจงว่า ไม่ได้มีการสั่งห้ามเรื่องดังกล่าว และไม่กังวลกับเรื่องนี้ โดย คสช. แค่เตือนให้ระวัง การนำเสนอเนื้อหาที่สุ่มเสียงผิดกฎหมาย เช่น การพาดพิงหมิ่นประมาทบุคคลที่ 3 ที่ทางผู้จัดอาจต้องรับผิดชอบหากบุคคลที่ถูกพาดพิงไปฟ้องร้องดำเนินคดี
นายวัส ตังสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มองว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่น่าคิดว่า การสั่งห้ามลักษณะนี้เหมาะสมหรือไม่ เพราะล้อการเมือง ในฟุตบอลประเพณีเป็นกิจรรมที่ทำกันมาอย่างยาวนาน เพื่อสะท้อนการเมืองตามยุคสมัย ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง ส่วนจะมีการเคลื่อนไหวประกาศจุดยืนในรูปแบบอื่นหรือไม่ นายวัส ก็ขอให้ดูเป็นรายกรณี