วันนี้ (12 ก.พ.61)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ลงพื้นที่บ้านเขื่อน หมู่ 3 ตำบลบ้านเหล่า อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกลุ่มอาชีพประดิษฐ์วัสดุจากผ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ถูกระบุว่าพบการทุจริตเงินสนับสนุนจากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดขอนแก่น
โดยเจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลจากสมาชิกกลุ่มฯ เป็นรายบุคคล เพื่อประกอบหลักฐานเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นชาวบ้านบอกว่ากลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้า มีสมาชิกทั้งหมด 30 คน มีการเบิกจ่ายเงิน 9 หมื่นบาท แต่ได้รับเงินจริงเพียง 3 หมื่นบาทเท่านั้น เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท.เขต 4 เตรียมขยายผลตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ โดยจะเริ่มตรวจที่จังหวัดอุดรธานี เป็นแห่งต่อไป
ด้าน พันตำรวจโทวันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เปิดเผยว่าหลังตรวจสอบในจังหวัดขอนแก่น พบว่า วิธีการปลอมแปลงเอกสารเบิกจ่ายเงินหลายวิธี หนึ่งในนั้น คือ การนำสำเนาบัตรประชาชนของชาวบ้านที่เข้าร่วมอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ซึ่งเป็นการอบรมในอีกโครงการหนึ่ง
โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ซึ่งร่วมขบวนการทุจริต จะนำสำเนาบัตรประชาชนไปใช้เบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ โดยชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ซึ่งเป็นที่มาที่ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาสั่งให้นักศึกษาฝึกงานปลอมแปลงเอกสารคำขอเบิกจ่าย และเซ็นรับเงิน
เบื้องต้นพบว่า เงินช่วยเหลือในโครงการนี้เฉพาะของจังหวัดขอนแก่น มีมากกว่า 3,000 คน งบประมาณกว่า 6 ล้าน 8 แสนบาท
ในวันพรุ่งนี้คณะกรรมการ ป.ป.ท. จะประชุมแต่งตั้งอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ โดยเฉพาะการตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่กี่คนที่เข้าข่ายร่วมขบวนการทุจริต และในวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ จะประชุมเพื่อเตรียมขยายผลตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ โดยงบประมาณทั้งหมดของโครงการนี้สูงเกือบ 500 ล้านบาท
ขณะที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งเป็นสถานศึกษาของนักศึกษาฝึกงานที่เป็นผู้ออกมาเปิดเผยข้อมูลทุจริตครั้งนี้ พบว่ากลุ่มนักศึกษาต่างจับกลุ่มพูดคุยและวิพากษ์วิจารณ์ข่าวนี้อย่างแพร่หลาย ส่วนกลุ่มนักศึกษาฝึกที่ออกมาร้องเรียนจนนำมาสู่การตรวจสอบ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แต่จากการสอบถามนักศึกษาบอกว่าเคยแจ้งอาจารย์ทราบแล้ว แต่ถูกห้ามนำไปพูดที่อื่นและให้กราบขอขมากับ ผอ. และเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ซึ่งจำใจต้องทำตามที่อาจารย์สั่ง ล่าสุด นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สั่งเจ้าหน้าที่ให้ความคุ้มครองนักศึกษากลุ่มนี้ พร้อมย้ำให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย