สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังการพบกันระหว่าง มุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และ คิม โย จอง น้องสาวของ คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพยองชางเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากทั้งคู่จะจับมือก่อนร่วมชมพิธีเปิดแล้ว ยังมีการถือจดหมายเชิญ มุน แจ อิน ให้เดินทางไปพบกับผู้นำเกาหลีเหนือที่กรุงเปียงยาง
เป็นที่น่าจับตาว่าถ้า มุน แจ อิน ตอบรับคำเชิญของ คิม จอง อึน จะเป็นการพบกันครั้งแรกของผู้นำสองเกาหลีในรอบ 10 ปี โดยการพบกันของผู้นำสองเกาหลีเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2000 กับปี 2007 ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของผู้นำโสมแดงคนปัจจุบันด้วย
ด้าน ไมค์ เพนส์ รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พูดถึงความเป็นไปได้ของการพบกันระหว่างผู้นำสองเกาหลีครั้งนี้เหมือนกัน โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าจะให้เกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือหารือกันก่อน เพื่อปูทางไปสู่การเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ โดยไม่มีปราศจากข้อแม้ในการเจรจา จากที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ยืนกรานว่าโสมแดงต้องปลดอาวุธนิวเคลียร์ก่อนจะมีการเจรจาใดๆ
แต่กระแสตอบรับของชาวเกาหลีใต้ไม่ได้มีแต่เพียงแง่บวก ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาชาวเกาหลีใต้ 1,300 คนรวมตัวกันที่กรุงโซล ห่างจากทำเนียบประธานาธิบดีไปราว 3 กิโลเมตร เพื่อประท้วงท่าทีของรัฐบาลต่อคณะผู้แทนของเกาหลีเหนือ
ผู้ประท้วงกลุ่มนี้มาพร้อมถือธงชาติเกาหลีใต้และสหรัฐฯ โดยได้พากันเหยียบและทำลายรูปภาพของ คิม จอง อึน บางรายจุดไฟเผาธงรวมชาติเกาหลี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทั้งเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพยองชางครั้งนี้ ผู้ประท้วงไม่พอใจที่รัฐบาลของมุน แจ อิน ต้อนรับเกาหลีเหนืออย่างอบอุ่น ทั้งๆที่รัฐบาลเปียงยางยังไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้อง ซึ่งก็คือการปลดอาวุธนิวเคลียร์ บางคนถึงขั้นเรียกร้องให้สหรัฐฯ โจมตีเกาหลีเหนือทันที เพื่อทำลายอาวุธนิวเคลียร์
ขณะที่ กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์หลังคณะผู้แทนระดับสูงของเกาหลีเหนือเดินทางกลับประเทศเมื่อวานนี้ ว่าจะมุ่งหน้าส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีอย่างต่อเนื่อง โดยจะพยายามจัดงานรวมญาติต่อเพื่อลดความตึงเครียดทางการทหารต่อไป