ย้อนรอยเส้นทางเข้าป่า พบบางด่าน "เปรมชัย" เปิดประตูเข้าไปเอง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เมื่อวานนี้พนักงานสอบสวนคดี ยิงเสือดำ เข้าไปในพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรอีกครั้ง เพื่อจำลองสถานการณ์ ในวันจับกุมของเจ้าหน้าที่นำข้อมูลไปประกอบสำนวนคดี ทีมข่าวพีพีทีวีลงพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ และพบข้อสังเกต จำนวนวัน ที่ขออนุญาต ในการเข้าพื้นที่  ที่ระบุ 2 วัน ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หากต้องการเข้าไปพักแรม  นอกจากนี้ยัง มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในวันที่คณะของนายเปรมชัย เดินทางเข้าไป  มีบางด่านตรวจที่ คณะของนายเปรมชัย นั้น เปิดประตูเข้าไปเอง โดยไม่ผ่านเจ้าหน้าที่

ข้อมูลการเดินทางของคณะนายเปรมชัย หลังผ่านที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรมาแล้ว อีกประมาณ 10 กิโลเมตร จะต้องผ่านด่านตรวจหน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง โดยเจ้าหน้าที่ประจำด่านหน่วยให้ข้อมูลว่า ขณะที่ตนเองกำลังเดินกลับมา ประจำป้อมรักษาการณ์ เวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พบรถออฟโร้ดสีน้ำตาลอ่อนผ่านมา หนึ่งในคณะลงมาจากรถแล้วเปิดไม้กั้นเองก่อนจะขับรถเข้าไป


นับเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่เจ้าหน้าที่ เข้ามาบริเวณจุดเกิดเหตุในครั้งนี้ มีการจำลองสถานการณ์ในวันเข้า ตรวจการจำลองสถานการณ์ สนับสนุนข้อสมมติฐานแรก คือ ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาวัดระยะ ความน่าจะเป็นในการใช้ชีวิตในป่าสมมติฐานต่อมา คือ พิสูจน์เจตนาในการเข้าไป โดยการใช้ตัวแสดงจริง คือเจ้าหน้าที่ทุ่งใหญ่ 4 นาย ในเย็นวันที่ 4 ก.พ. ซึ่งคำบอกเล่า เจ้าหน้าที่ในวันนั้น ระบุว่า ระบุว่าขณะเจอซากเสือ ไม่มีกลิ่นเน่า และเกลือที่ทาไว้คงถนอมสภาพยังเป็นเกล็ด ไม่ละลาย  ประเด็นนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้ที่ฆ่า และล่า ต้องมีความชำนาญ

สมมติฐานต่อมา สร้างเพื่อพนักงานสอบสวนสภ.ทองผาภูมิ ที่ไม่เคยเข้ามา ได้เห็นภาพวันที่เจ้าหน้าที่ทุ่งใหญ่  4 นาย พบอะไรบ้าง ในช่วงของเย็นวันที่ 4 ก.พ. ต่อเนื่องสายวันที่ 5 ก.พ. ส่วน สมมติฐานการขอใช้เส้นทางศึกษาธรรมชาติเพียง 2 วัน แต่กำหนดจุดถึง 4 เป้าหมาย ระยะทางราว 150 กิโลเมตรในป่า

สมติฐานต่อมาสร้างเพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ โดยใช้ภาพถ่าย ขณะพบคณะเปรมชัยทั้ง 4 คน ที่จนท. 4 นายของทุ่งใหญ่ เข้าไปเตือนแล้วให้ย้ายจุดพัก แต่กลับไม่ยอมไป จนต้องตรวจค้น และพบการอำพรางอุปกรณ์ ซากสัตว์ ปืน กล่องกระสุน กระจัดกระจายในรัศมี 50 เมตร สมติฐานต่อมาสร้างเพื่อหาจุดรอยต่อจากสมมติฐานจุดสังหารเสือดำ มายังจุดตั้งแคมป์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่มีแอ่งหินกักน้ำให้พออาบ หุงหาอาหาร และลานโล่งริมทางได้ตั้งแคมป์

สมติฐานสุดท้าย สร้างเพื่อการทำสำนวนประกอบแจ้งความให้ครบถ้วนและเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเข้าพื้นที่ เพราะระยะทางจากที่ทำการเขตฯ ถึงแคมป์ราว 23 กิโลเมตร เดินทางแสนยากลำบาก ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง และอีกเพียง 8 กิโลเมตร จะถึงหน่วยพิทักษ์มหาราช แต่ทำไมคณะนายเปรมชัยถึงไม่ยอมไป ทั้งที่มีที่พักสะดวกสบาย

รวมถึงข้ออ้างที่คณะนายเปรมชัย อธิบายว่าหลงป่าจึงขอพักที่ริมห้วยตะทิ แทนที่จะไปพักในหน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช ทั้งที่ห่างออกไปเพียง 8 กิโลเมตร ซึ่งประเด็นการหลงป่า นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ยืนยันว่า เส้นทางที่คณะนายเปรมชัยใช้ ไม่ซับซ้อน และมีเพียงเส้นทางเดียว  ส่วนประเด็น การทำหนังสือขออนุญาตเข้าพื้นที่ 2 วัน ของคณะนายเปรมชัย ในเส้นทางนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า  เส้นทางนี้มีระยะทางราว 150 กิโลเมตร ในเขตป่าทุ่งใหญ่เชื่อมระหว่างอำเภอทองผาภูมิกับสังขละบุรี จากที่ทำการเขตถึงเกาะสะเดิ่ง โดยทั่วไปเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 3 วัน เพื่อส่งสะเบียงและกำลัง

ขณะที่เสือดำ มีข้อมูลจากนักวิจัยว่า เคยบันทึกยภาพได้จากกล้องดักถ่ายสัตว์ป่ารัศมี 20 กิโลเมตรจากจุดตั้งแคมป์นายเปรมชัย และพวก  เจ้าหน้าที่เตรียม นำภาพถ่ายมาเปรียบอัตลักษณ์ เพราะเสือที่บันทึกภาพได้  กับเสือที่ถูกฆ่า อาจเป็นเสือตัวเดียวกัน

 

ศักดา ดุลยาชีวะ ถ่ายภาพ

ภควัต โฉมศรี รายงาน

 

 

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

ขณะนี้ มีรายการกำลังถ่ายทอดสด คุณสนใจหรือไม่?

POP NEWS

POP NEWS

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ