ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเครือข่ายนิสิตเพื่อปกป้องสิทธิและความยุติธรรมมหาสารคาม ออกแถลงการณ์ เพื่อปกป้อง นางสาวปนิดา ยศปัญญา หรือ แบม นิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กรณีออกมาเปิดโปงการปลอมแปลงเอกสารทุจริตเงินผู้ยากไร้ พร้อมยกย่องเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ กล้าทำความดี
โดยกลุ่มเครือข่ายนิสิตฯ ยังยื่นเรียกร้อง 4 ข้อ ถึงผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีอาจารย์บางคน ที่นิสิตนำเรื่องมาปรึกษา แต่แทนที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองตามที่ควรจะเป็น กลับมีการนำไปไกลเกลี่ยกับคู่กรณี และยังบังคับในนิสิตขอโทษ เหมือนกับว่านิสิตเป็นผู้ทำผิดเอง
นอกจากนี้ ทางเครือข่ายนิสิตฯ ได้เรียกร้องให้ผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย ตรวจสอบข้อเท็จจริง 4 ข้อ คือ ทำไมอาจารย์จึงไม่ให้นิสิตลงบันทึกประจำวัน แต่กลับนำนิสิตไปไกลเกลี่ย และบังคับให้ขอขมาคู่กรณี การสอบสวนนิสิตมีกระบวนการถูกต้องหรือไม่ เป็นธรรมหรือไม่ มีการสั่งห้ามไม่ให้นิสิตเผยแพร่และแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ปล่อยให้มีการแชร์ข้อความลักษณะโจมตีนิสิต และให้มีกลไกในการคุ้มครองสิทธินิสิตคนดังกล่าวทุกกรณี
ขณะที่ความคืบหน้า สอบสวนคดีทุจริต หลังการตรวจสอบพบข้อมูลความผิดชัดเจน ทางคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง เตรียมประชุมกับ ป.ป.ท.เขต 4 ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้
สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจิรตครั้งนี้ มีข้าราชการ 2 คน พนักงานอัตราจ้าง 3 คน และบุคคลภายนอกอีก 1 คน ซึ่งเตรียมเรียกมารับทราบข้อหาในสัปดาห์หน้า ส่วนนักศึกษาฝึกงานจะมีความผิดในการปลอมแปลงเอกสารด้วยหรือไม่นั้น ต้องมองที่เจตนา
ขณะนี้การสืบสวนของ ป.ป.ท.ที่รายงานต่อคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ผู้ติดเชื้อเอดส์ และผู้มีรายได้น้อย ซึ่งต้องได้รับเงินสงเคราะห์รายละ 2 พันบาท ปรากฏว่าไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว ส่วนกลุ่มส่งเสริมอาชีพ ต้องได้รับเงินมาเป็นก้อนและจ่ายให้กับสมาชิก แต่ได้เงินไม่เต็ม สมาชิกได้รับเงินคนละ 1,000 บาทเท่านั้น