วันนี้ (6 มี.ค.61) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ยืนยัน การดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเม้นต์ เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ถึงแม้จะโดนกดดันจากโลกออนไลน์หรือกลุ่มคนที่ออกมาเรียกร้อง ก็ไม่สามารถทำเกินกว่าขอบเขตของกฎหมายได้
ส่วนระยะเวลาการทำงานของพรักงานสอบสวนไม่ได้ล่าช้า และยังอยู่ในกรอบของกฎหมาย เพราะคดีนี้ ฝากขังได้ 7 ผัด ยังเหลืออีก 4 ผัดฟ้อง ที่สำคัญคือ “ผู้ต้องหาไม่รับสารภาพ” จึงจำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ส่วนผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ของตำรวจ ที่ทำเพิ่มเติมเรื่องผลตรวจหัวกระสุน ตรวจเสร็จแล้วตั้งแต่5 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยังไม่ได้ส่งมา เช่น เนื้ออะไร ใช่เนื้อเสือหรือไม่ ต้องใช้หลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันเพื่อความหนักแน่นในชั้นศาล ยืนยันว่า พนักงานสอบสวน ส่งเรื่องไปกรมอุทยานฯประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว และติดตามผลการตรวจของกรมอุทยานฯทุกวัน แต่ยังไม่ได้รับผลอาจมีปัญหาทางเคมี
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความพยายามอ้างว่าฆ่าเสือดำจากที่อื่น พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า “ฟังไม่ขึ้นแน่นอน” เพราะไล่ตรวจสอบแล้ว หมู่บ้านที่ใกล้ที่สุด อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุออกไป 50 กิโลเมตร และพื้นที่เกิดเหตุ ก็เป็นพื้นที่ ปิด เป็นไปไม่ได้ที่จะไปล่ามาจากที่อื่น
ส่วนเรื่องงาช้าง 4กิ่งที่พบในบ้านนายเปรมชัยนั้น รอง ผบ.ตร.บอกว่า เขาให้รับจดแจ้งได้เฉพาะ “งาช้าง เอเชีย” ถ้าผลพิสูจน์ออกมาว่าเป็นงาช้างแอฟริกา ไม่ใช่งาช้างเอเซีย ก็ต้องถามว่า ที่ผ่านมาให้รับจดแจ้งได้อย่างไร และประเด็นต่อมา คือ ผู้รับจดแจ้ง ก็ต้องมาร้องทุกข์ตาม MOU ซึ่งเป็นเรื่องที่กรมอุทยานฯต้องพิจารณาดำเนินการภายในกรมอุทยานฯเอง ถ้าเห็นว่าเป็นความผิด ก็ต้องมาแจ้งความร้องทุกข์ เพราะตำรวจไม่สามารถดำเนินการเองได้
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยืนยันว่า ตำรวจกับกรมอุทยานฯไม่มีปัญหาในการประสานงาน และคดีคืบหน้าไปกว่า 90% แล้ว โดยได้แจ้งข้อหาไปแล้ว 9 ข้อหาและกำลังแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาวุธปืนคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องได้ภายใน 24 มี.ค.นี้