ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ แต่ขอให้มั่นใจว่าการทุจริตทุกอย่าง หากเป็นเรื่องภาครัฐทาง ป.ป.ท.จะเข้ามาดูแลตรวจสอบและดำเนินการ แต่ถ้าเป็นเรื่องการเมืองทาง ป.ป.ช. จะดำเนินการ
นับเป็นการตอบรับข้อเรียกร้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ทันที หลังทราบว่า กลุ่มธรรมาภิบาล และเครือข่ายประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ที่นำโดยนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบโครงการจัดซื้อและติดตั้งกล้องวงจรปิดในโรงเรียนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามโครงการที่ชื่อว่า Safe Zone School วงเงินงบประมาณ 405 ล้านบาท ดำเนินการปี 2558-2560
นายวิวัฒน์ อ้างว่าการจัดซื้อมีนายทหารเข้าแทรกแซงการตัดสินใจขอคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง สำนักงานการศึกษาในพื้นที่ด้วยวิธีการข่มขู่ และบังคับให้เลือกบริษัทเอกชนที่อ้างว่ามีความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ในรัฐบาล โดยนายวิวัฒน์ เรียกร้องให้ตรวจสอบนายทหารกลุ่มนี้และขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างว่าเป็นไปตามระเบียบ และกฎหมายหรือไม่
นอกจาก กลุ่มธรรมาภิบาล ยังเรียกร้องให้ ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ ของ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่เป็นผู้ดูแลโครงการ เนื่องจากกลุ่มธรรมาภิบาลได้ร้องเรียนเรื่องนี้ไปหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข อาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่
ส่วนการตรวจสอบกรณีการร้องเรียนการทุจริตเบี้ยเลี้ยง ตชด. วันนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าระหว่างเดินทางลงตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่กองกำกับการตำรวจ ตชด. 44 จ.ยะลา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานว่าตามคำร้องเรียน โดยเชื่อว่าบางส่วนเป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนการจ่ายเงิน ทำให้เจ้าหน้าที่บางคนคิดว่าเงินหายไป แต่ความจริงแล้วได้รับครบตามจำนวน
โดยยืนยันดำเนินการตรวจสอบอย่างเป็นธรรม หากมีหลักฐานพบว่าใครทำผิด หรือทุจริต หากตรวจสอบยังไงก็ต้องพบถ้ามีการทุจริต จะถูกลงโทษตามระเบียบ