เมื่อวันที่ (19 เม.ย.61) นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอเปิดเผยถึงสถิติการขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 (ม.ค.-มี.ค.) ว่า มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 333 โครงการ เงินลงทุนรวม 203,630 ล้านบาท ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อบรรยากาศการลงทุนในปีนี้ โดยมูลค่าดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ28 ของเป้าหมายขอรับส่งเสริมการลงทุนตลอดทั้งปีที่ 720,000 ล้านบาท
มูลค่าเงินลงทุนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 1 แสนล้านบาท โดยเป็นการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายต่างๆ ได้แก่ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากการลงทุนโครงการใหม่ และโครงการขยายของรายเดิม ในปีนี้น่าจะเห็นทิศทางการลงทุนของภาคเอกชนในอีกมิติหนึ่ง คือ มีการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค. 61) มีผู้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตแล้ว 33 โครงการ มีมูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 1,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ภาคเอกชนจำนวนมากได้ยื่นขอลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยในปีที่ผ่านมา (2560) มีมูลค่าสูงกว่า 17,000 ล้านบาท ทำให้บีโอไอมั่นใจว่าในปีนี้ เอกชนจะมีความสนใจลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตสูงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมการผลิตและของประเทศไทยไปพร้อมกันด้วย