สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี อนุมัติแก้ไขกฎหมายใหม่ โดยกำหนดโทษประหารชีวิตแก่ผู้ที่กระทำความผิดข่มขืนเด็กผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มโทษจำคุก ในความผิดฐานข่มขืน เป็น 2 เท่า และกำหนดให้การถ้ำมอง ตื๊อติดตาม และการค้าผู้หญิง เป็นความผิดอาญา รวมถึงมีการลดเกณฑ์อายุขั้นต่ำสำหรับบุคคลที่สามารถถูกดำเนินคดีเอาผิดในฐานะผู้ใหญ่ ในความผิดอาญาร้ายแรง จาก 18 ปี เป็น 16 ปี
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลของนายโมดีถูกวิพากษ์วิจารณ์และโจมตีอย่างหนักว่าไม่หามาตรการป้องกันเหตุข่มขืนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศ ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่มักเป็นเด็ก โดย 2 คดีที่ปลุกกระแสความไม่พอใจ และทำให้เกิดการประท้วงลุกลามบานปลายไปทั่วประเทศ คือ คดีฆ่าและข่มขืนเด็กหญิงชาวมุสลิมอายุเพียง 8 ขวบ ในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ รวมถึงกรณีที่ ส.ส.พรรครัฐบาลถูกกล่าวหาว่าข่มขืนเด็กสาววัย 16 ปี ในรัฐอุตรประเทศ
ปัจจุบัน อาชญากรรมความรุนแรงต่อผู้หญิงในอินเดียยังคงพุ่งสูง ขณะที่อัตราตัดสินลงโทษคดีข่มขืนในอินเดียมีเพียงแค่ 28 % นั่นคือ ผู้ต้องสงสัย 72 ใน 100 คน จะรอดพ้นการถูกลงโทษ หลายฝ่ายจึงมีความพยายามที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดกรอบเวลาในการนำตัวคนผิดมาดำเนินคดี เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า
สำหรับคดีข่มขืนที่เคยเป็นข่าวใหญ่ และทำให้ชาวอินเดียหลายแสนคนออกมาประท้วง เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษคดีข่มขืน คือ กรณีของนักศึกษาหญิงชาวอินเดีย ที่ถูกรุมข่มขืนบนรถประจำทางในกรุงนิวเดลีจนเสียชีวิตในปี 2012