ตร.เลย ร้อง ผบ.ตร. ตรวจสอบอดีตผู้การฯ โกงเงินสหกรณ์ 229 ล้าน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรณีข้าราชการตำรวจสังกัดภูธรจังหวัดเลยเกือบ 200 นาย ถูกอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย โกงเงินสหกรณ์ 229 ล้าน วันนี้ตัวแทนตำรวจประมาณ 40 คน เดินทางเข้าร้องเรียนกับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ

วันนี้ (30 พ.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารหลักฐานกว่า 10 หน้า เป็นหลักฐานที่ตัวแทนข้าราชการตำรวจ ที่ได้รับความเดือนร้อนกรณี อ้างว่า พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ทุจริตเงินโครงการกู้รวมหนี้ของสหกรณ์ตำรวจกว่า 229 ล้านบาท นำมายื่นร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  

โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 4 หารือกับธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ข้าราชการตำรวจจำนวน 192 นาย ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และหากพบการทำความผิดให้ดำเนินคดีถึงที่สุด ทั้งทางวินัยและอาญา พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าเรื่องนี้ต้องมีทางออกให้กับตำรวจที่ได้รับความเดือดร้อน เพราะเป็นเรื่องของปากท้องของชั้นผู้น้อย ที่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วน พล.ต.ต.สุทิพย์ ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ แต่สอบถามไปยังต้นสังกัดทราบว่าอยู่ระหว่างลาพักร้อน ซึ่งต้องรอให้เจ้าตัวกลับมาก่อน ทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจึงจะเรียกเข้าให้ปากคำ

ขณะที่ ข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบจากโครงการนี้ หลายคนตกอยู่ในภาวะเครียดอย่างหนัก บางคนต้องกู้ยืมเงินมาเพื่อมาชำระหนี้ และบางคนถึงกับต้องนำปืนพกประจำตัวไปจำนำ ซึ่งการตรวจสอบพบว่า โครงการนี้เริ่มต้นประมาณปี 2558-2559 โดยผู้บังคับบัญชาของจังหวัดหนองบัวลำภูขณะนั้น ทำโครงการเพื่อแก้ไขหนี้สินให้ตำรวจในสังกัด ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้  โดยเจรจากับทางธนาคารออมสิน เพื่อลดดอกเบี้ย และให้ผ่อนชำระต่องวดน้อยลง เพื่อให้มีเงินเหลือ และยังให้กู้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเข้าช่วยส่วนหนึ่ง แก้ไขปัญหาหนี้สินได้ และเกิดเป็นหนองบัวลำภูโมเดล ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ

หลังจากนั้น ผู้บังคับบัญชาคนดังกล่าว ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่จังหวัดเลย และนำโครงการนี้มาใช้ เมื่อต้นปี 2560 แต่คราวนี้มีเงื่อนไขว่า เมื่อได้เงินกู้จากสหกรณ์แล้ว แทนที่จะนำไปปลดหนี้กับสถาบันการเงินอื่น กลับนำเงินให้ผู้บังคับบัญชาทั้งหมด โดยมีข้อแลกเปลี่ยนเป็นค่าตอบแทนร้อยละ 50 อีกทั้งผู้บังคับบัญชารับปากว่าจะเป็นผู้ชำระหนี้รายเดือนกับธนาคารให้ หากใครไม่ตกลงก็จะไม่ได้พิจารณาเงินกู้จากสหกรณ์ ระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชาคนดังกล่าว นำเงินชำระธนาคารให้มาตลอด แต่ช่วงต้นปี 2561 ขาดชำระเงิน ทำให้เรื่องทั้งหมดแดงขึ้นมา

อย่างไรก็ตามความคืบหน้าการตรวจสอบของ คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตำรวจภูธรภาค 4 ได้สอบปากคำตัวแทนตำรวจแล้ว 40 นาย และยังเรียกตัวแทนของสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ของตำรวจ 192 นาย มาให้การ เพื่อจะรวบรวมรายละเอียดทั้งหมด

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ