ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จากกรณีที่มีแรงงานไทยประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่ต่างประเทศแล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์หรือความคุ้มครองหรือไม่นั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขอแจ้งให้ทราบว่า กรมการจัดหางานได้จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยเหลือคนหางานซึ่งถูกทอดทิ้งอยู่ในต่างประเทศให้เดินทางกลับประเทศไทย ให้การสงเคราะห์แก่แรงงานไทยซึ่งไปหรือจะไปทำงานในต่างประเทศหรือทายาทโดยธรรมของสมาชิกกองทุนฯ ซึ่งผู้ที่มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิกกองทุนฯ ได้แก่ คนหางานที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศโดยบริษัทจัดหางาน หรือกรมการจัดหางานจัดส่ง
ส่วนคนหางานที่แจ้งการเดินทางไปทำงานด้วยตนเองสามารถสมัครเป็นสมาชิกกองทุนฯ ได้ตามความสมัครใจ โดยจ่ายค่าสมาชิกฯ ในอัตรา 300 – 500 บาทต่อคนตามอัตรากำหนดของประเทศที่เดินทางไปทำงาน ซึ่งจ่ายเพียงครั้งเดียว แต่คุ้มครองตลอดระยะเวลาสัญญาจ้าง และคุ้มครองต่อไปอีก 5 ปีหากยังทำงานอยู่ในต่างประเทศ โดยสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับการสงเคราะห์ช่วยเหลือมีหลายกรณี เช่น กรณีถูกทอดทิ้งในต่างประเทศจะช่วยเหลือให้กลับประเทศไทย กรณีทุพพลภาพ กรณีประสบอันตรายทั้งก่อนไปและทำงานแล้ว สงเคราะห์เป็นค่ารักษาพยาบาล หรือประสบปัญหาต่างๆ ในต่างประเทศตามที่กฎหมายกำหนด สงเคราะห์เป็นค่าพาหนะ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็น โดยจะได้รับการสงเคราะห์ไม่เกินคนละ 30,000 บาท
ส่วนกรณีเสียชีวิตในต่างประเทศ สงเคราะห์เงินจำนวน 40,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท กรณีถูกเลิกจ้างจากสาเหตุการประสบอันตราย สงเคราะห์คนละ 15,000 บาท หากต้องเดินทางกลับประเทศไทยก่อนสิ้นสุดการเป็นสมาชิกกองทุนฯ เนื่องจากเป็นโรคต้องห้าม โดยทำงานไม่ถึง 6 เดือน สงเคราะห์คนละ 25,000 บาท ทำงานมากกว่า 6 เดือน สงเคราะห์ 15,000 บาท รวมทั้งจากปัญหาความไม่สงบ ภัยธรรมชาติ โรคระบาด ซึ่งทางการของประเทศนั้น ๆ ประกาศกำหนดแล้ว หรือค่าจ้างทนายความเนื่องจากถูกดำเนินคดีอาญาในความผิดซึ่งมิได้กระทำโดยเจตนา เป็นต้น