ประวัติ “อดีตพระพรหมเมธี” เอี่ยวทุจริตเงินทอนวัด

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 พ.ค.61 ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นิมนต์อดีตพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยาวรวิหาร และอดีตพระอรรถกิจโสภณ เลขานุการ เจ้าคณะกรุงเทพ วัดสามพระยามาให้ปากคำ หลังพระทั้งสองรูปตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีทุจริตเงินทอนวัดรอบ 3 ซึ่งอดีตพระพรหมดิลก ถือเป็นพระชั้นผู้ใหญ่รูปแรกที่เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับตำรวจกองปราบฯ โดยการออกหมายจับอดีตพระพรหมดิลก เกิดขึ้นหลังจากตำรวจบุกค้นบ้านของนายวิวุฒิ อุดมโชคปิติ และนางวิภาภรณ์ อุดมโชคปิติ  ในวันเสาร์ที่ 19 พ.ค.61 พบมีเงิน 5 ล้านบาทจากวัดสามพระยาฯ โอนเข้าบัญชีสองคนนี้ 3 ครั้ง

ในวันเดียวกัน ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดรายชื่อพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัด ล็อต 3 ซึ่งมาให้ปากคำ 5 รูป ได้แก่ อดีตพระศรีคุณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ / อดีตพระราชกิจจาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ / อดีตพระครูสิริวิหารการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ / อดีตพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร / อดีตพระอรรถกิจโสภณ เลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพ วัดสามพระยา

ซึ่งมีพระ 2 รูป หลบหนี คือ อดีตพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร และอดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม

ทว่า วันที่ 30 พ.ค.61 อดีต “พระพรหมสิทธิ” เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เข้ามอบตัวกับตำรวจกองปราบ เจ้าหน้าที่ฝากขังหลังตำรวจค้านประกันตัว และถูกสึกนำตัวเข้าเรือนจำ

ในขณะที่ “อดีตพระพรหมเมธี” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามฯ ยังหลบหนี โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวจนสืบรู้ว่า “อดีตพระพรหมเมธี” ใช้เส้นทางการหลบหนีระหว่างประเทศจากไทย ข้ามไปยังแขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวหรือ สปป.ลาว ด้านตรงข้าม จ.นครพนม ก่อนจะเดินทางข้ามไปยังกัมพูชา จากนั้นขึ้นเครื่องบินเดินทางไปยังเมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อต่อเที่ยวบินไปยังนครแฟรงก์เฟิร์ต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี กระทั่งถูกทางการเยอรมนีควบคุมตัวไว้ได้เมื่อคืนวันที่ 2 มิถุนายน ตามเวลาในประเทศไทย และตำรวจจะนำตัว “อดีตพระพรหมเมธี” กลับประเทศไทยเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ในวันที่ 6 มิ.ย.เวลา 06.30 น.  (อ่านข่าว : ผบ.ตร.บินด่วนไปเยอรมัน จับตัว “อดีตพระพรหมเมธี” ได้แล้ว )

(อ่านข่าว : เส้นทางหนี “อดีตพระพรหมเมธี” โดนถอนพาสปอร์ต - ตม.เยอรมนีกักตัว )

ทั้งนี้ ตำรวจ พบว่า “อดีตพระพรหมเมธี” มีพฤติกรรม รับเงินจาก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 5 ล้าน งบโรงเรียนพระปริยัติธรรม ปี 2557 โดยโอนเข้าบัญชีตัวเองถึง 2 ครั้ง

สำหรับประวัติ “อดีตพระพรหมเมธี”

อดีตพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ดำรงตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธรรมยุต) และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร

“อดีตพระพรหมเมธี” เกิดที่บ้านริมน้ำนครชัยศรี ปากคลองบางระทึก ต.บางระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2484 บรรพชาเมื่อวันที่ 16มิถุนายน พ.ศ. 2495 ที่ วัดราษฎร์บำรุง ถนนเพชรเกษม 69 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร โดยมี พระครูวิศาลปริยัติคุณ (งาม จนฺทเทโว) วัดสามัคคิยาราม อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เป็นพระอุปัชฌายะ อุปสมบทเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 ที่ วัดสัมพันธวงศ์ ถนนทรงสวัสดิ์ แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร โดยมี

- พระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสโก) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เป็นพระอุปัชฌายะ

- พระเทพปัญญามุนี (เฉย ยโส) เป็นพระกรรมวาจาจารย์

- พระเนกขัมมมุนี (เส็ง ทินฺนวโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ตำแหน่ง

-1 มกราคม 2508 เป็นกรรมการสนามหลวง แผนกธรรม

-25 พฤษภาคม 2510 เป็นเลขานุการวัดสัมพันธวงศ์

-1 พฤษภาคม 2512 เป็นครูพระปริยัติธรรมประจำสำนักเรียนวัดสัมพันธวงศ์

-30 ตุลาคม 2517 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ และเป็นกรรมการสงฆ์, เป็นกรรมการจัดประโยชน์วัด

-พ.ศ.2519 - ปัจจุบัน เป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะธรรมยุต

-พ.ศ.2525 - ปัจจุบัน เป็นเลขานุการพิจารณาสมณศักดิ์ของคณะธรรมยุต

-1 กุมภาพันธ์ 2531-2539 เป็นเลขานุการเจ้าคณะภาค 1-2-3 และ 12-13 (ธรรมยุต)

-พ.ศ.2535 - ปัจจุบัน เป็นกรรมการเถรสมาคมธรรมยุต

-พ.ศ.2536-2547  เป็นผู้ช่วยเลขาธิการคณะธรรมยุต

-30 มีนาคม 2543 เป็นผู้ช่วยแม่กองธรรมสนามหลวง

-27 มิถุนายน 2544 เป็นกรรมการบริหาร และผู้ช่วยเลขาธิการคณะธรรมยุต รูปที่ 1

-2 สิงหาคม 2544 เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต ทรงแต่งตั้งให้เป็นอนุกรรมการ การปกครองของคณะธรรมยุต

-พ.ศ. 2546  เป็นพระอุปัชฌายะ วิสามัญ

-พ.ศ. 2546 เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม

- พ.ศ.2552 เป็นเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธรรมยุต)

 

สมณศักดิ์

-21 มิถุนายน 2509 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูฐานานุกรมที่ “พระครูสังฆบริหาร” ฐานานุกรมของ พระเดชพระคุณ พระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสกเถระ) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ รูปที่ 9

-15 พฤศจิกายน 2513 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูฐานานุกรมที่ “พระครูปลัด” ฐานานุกรมของ พระเดชพระคุณ พระเทพปัญญามุนี (เฉย ยสเถระ) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ รูปที่ 10

-5 ธันวาคม 2519 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดฯ พระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก ที่ พระครูวิบูลศีลวงศ์ (ผจล.ชอ.)

-5 ธันวาคม 2524

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดฯ พระราชทานเลื่อนเป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม (ผจล.ชพ.)

-5 ธันวาคม 2528 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดฯ พระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ ชั้นสามัญ ที่ พระวิบูลธรรมาภรณ์

-12 สิงหาคม 2535 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นพระราชาคณะ ชั้นราช ที่ พระราชธรรมาภรณ์

- 10 มิถุนายน 2539 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เนื่องในโอกาสมหามงคลกาญจนาภิเษก เป็นพระราชาคณะ ชั้นเทพ ที่ พระเทพรัชมงคลเวที

- 5 ธันวาคม 2544 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นธรรม ที่ พระธรรมกิตติเมธี

-5 ธันวาคม 2553 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดฯ สถาปนาสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ที่ พระพรหมเมธี สีลาจารวัตรวิมล โสภณปริยัติดิลก สาธกธรรมวิจิตร พิพิธศาสนกิจจาทร ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

 

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.watsamphan.com