นักศาสนวิทยา แนะ จัดระเบียบร่างทรง หากเรียกร้องเงินอาจเข้าข่ายหลอกลวง
เผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
หลังจากที่สังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพสถานที่แห่งหนึ่งที่มีการตั้งแท่นบูชาในลักษณะของพิธีการไหว้ครู และมีผู้ออกมาร่ายรำ โดยคลิปวิดีโอที่แชร์มีการระบุข้อความว่าเป็นร่างทรงแม่พุ่มพวง ดวงจันทร์ รวมไปถึงการเป็นร่างทรงบุคคลอื่นๆ ที่มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเข้าข่ายการหลอกลวงประชาชนหรือไม่

จากกรณีที่เกิดขึ้นทางครอบครัวของพุ่มพวง ดวงจันทร์ คือ นายไกรสร ลีละเมฆินทร์ และ เพชร-ภัควรรธน์ ลีละเมฆินทร์ สามี และลูกชายของพุ่มพวง ได้เปิดเผยว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีผู้แอบอ้างว่าพุ่มพวงเข้าบุคคลต่างๆมาหลายครั้ง ซึ่งก็ต้องดูเรื่องเจตนาว่า ทำเพื่อขายของ หรือเป็นเพียงการเชิดชู
โดยนางสาวณัฏฐ์ษิกัญญา คำมูลพงษ์ หญิงสาวที่ปรากฎในคลิปที่มีการเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ว่าเป็นร่างทรงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวว่า วันนั้นมีการจัดพิธีไหว้ครูองค์ปู่ฤาษี ก็ได้เชิญพุ่มพวง ดวงจันทร์ มาเป็นครูบาอาจารย์ด้วย เพราะรู้สึกชีวิตดีขึ้นเพราะเคารพนับถือพุ่มพวง แต่ก่อนขายของไม่ดี แต่เมื่อขอพร หลังจากนั้นก็ขายของดีขึ้นมาก เป็นความผูกพัน การเคารพนับถือ ซึ่งตนเองเป็นร่างทรงของปู่ฤาษีตาไฟ แต่ไม่ได้เป็นร่างทรงของพุ่มพวงแต่อย่างใด
ด้าน ฤาษีมหามุนีโต ได้เปิดเผยในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวว่า ทุกวันนี้ในวงการร่างทรงมีข้อเสียหายเยอะ ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปดูต้นเหตุเกิดจากการที่การสอนลูกศิษย์แต่ไม่มีการควบคุม อย่างกรณีที่เกิดขึ้น การถูกพูดถึงร่างทรงพุ่มพวงมีจริงหรือไม่ ซึ่งจากการสอบถามก็ได้ทราบว่าจริงๆแล้วมันเกิดจากความเชื่อ ความรัก จนคิดว่าพุ่มพวงอยู่กับตัวเอง แต่ก็ขอวอนให้อย่าเอาพุ่มพวงมาเล่นแบบนี้ เพราะครอบครัวเขาอาจจะไม่สบายใจได้
กรณีที่มีข้อโต้แย้งในสังคมว่า ร่างทรงมีจริงหรือไม่ จริงๆแล้ว ร่างทรงกับผีก็ไม่แตกต่างกัน เพียงแต่มีการแบ่งชั้น ผีก็คือวิญญาณ เทพก็คือวิญญาณ ซึ่งทั้งหมดก็มาจากความเชื่อ แต่ร่างทรงโดยส่วนตัวคือมีอยู่จริง เทพที่ลงมาประทับเกิดจากการที่มนุษย์สื่อขึ้นไปถึงเทพ ภาษาเทพมีทั้งหมด 12 ชั้นวรรณะ แต่ที่เห็นตามโซเชียลใครก็สามารถทำได้
ขณะที่ ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์ นักวิชาการด้านศาสนวิทยา ระบุว่า เรื่องนี้ไม่มีศาสตร์ตายตัว เหมือนเป็นการอุปทานชนิดหนึ่ง เป็นความเชื่อ และแสดงอากัปกิริยาออกมา แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ 1.เสแสร้ง 2. อุปทาน คือ เชื่อมากๆจนแสดงออกมา และ 3.จิตประสาท คือ เคมีในสมองของเขา หูแว่วจนเกิดจินตนาการ
โดยความเชื่อก็มีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ การทรงเจ้าเป็นขั้นสุดยอดของความเชื่อ แนวไสยศาสตร์ จากการกราบไหว้บูชา พัฒนาไปเป็นการต้องการสื่อสาร ต้องการการตอบสนอง
ทั้งนี้ ในเรื่องของการจัดระเบียบร่างทรง บางประเทศก็มีการจัดระเบียบ แต่สำหรับประเทศไทยค่อนข้างทำได้ยาก เพราะเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อ แต่บางรายที่มีการเสแสร้ง หรือ การแสดงออกที่มากเกินไปก็ควรจะต้องมีการตรวจสอบ วิธีการตรวจสอบก็คือให้ร่างทรงแสดงอิทธิฤทธิ์ให้ดู ว่ามีท่าทางในการแสดงอิทธิฤทธิ์อย่างไร และกรณีที่มีการเรียกร้องเงินจากลูกศิษย์ที่มีความเชื่อ ความศรัทธาก็อยู่ในข่ายหลอกลวงอาจต้องมีการจัดระเบียบในเรื่องนี้
ชมคลิปที่นี่ : “ฤาษีมุนีโต” โชว์ “ภาษาเทพ” กลาง “เป็นเรื่องเป็นข่าว” ระบุมี 12 ชั้น ใช้สื่อสารตามวรรณะ
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้