
เลย แผ่นดินไหวขนาด 3.4 - กรมอุตุฯ เตือนฝนหนัก 37 จังหวัดทั่วประเทศ
เผยแพร่
เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 3.4 ในอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย บ้านและอาคารสั่นไหว นักวิชาการระบุเป็นจุดที่อยู่ในแผนที่เสี่ยงแผ่นดินไหวระดับปานกลาง ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน 37 จังหวัด เจอฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน
เมื่อวานนี้ เมื่อเวลา 22 นาฬิกา 8 นาที เกิดแผ่นดินไหวในอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลโคกขมิ้น ตำบลผาน้อย รวมทั้งในตำบลบ้านเพิ่ม อำเภอผาขาว และอำเภอหนองหิน ประชาชนหลายหมู่บ้านรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนมากกว่าพื้นที่อื่น
ชาวบ้านอำเภอหนองหิน เล่าว่า ขณะที่นอนอยู่ในบ้านรู้สึกได้ว่าบ้านสั่นสะเทือนอยู่ประมาณ 5-6 วินาที คล้ายกับรถใหญ่ขับในทางลูกรังจนรู้สึกได้
ด้านเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ได้ตรวจสอบกับลูกข่ายทุกอำเภอให้ไปตรวจสอบว่ามีอำเภอใดบ้างที่ได้รับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว เบื้องต้นไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานผลการตรวจวัดแผ่นดินไหวในพื้นที่ดังกล่าว พบว่า มีขนาด 3.4 ลึก 1 กิโลเมตร โดยที่บ้านป่าบง หมู่ 19 ตำบลโคกขมิ้น อำเภอวังสะพุง บ้านสั่นสะเทือน ประมาณ 3 วินาที ถัดมาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง ที่บริเวณโรงงานน้ำตาลมิตรภูหลวง ตำบลโคกขมิ้น อำเภอวังสะพุง หอพัก อพาร์ทเมนท์ แฟลต แมนชั่นในพื้นที่ได้รับแรงสั่งสะเทือนจนตึกสั่น
ล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ นายเพชร สุพพัตกุล นายอำเภอวังสะพุง ลงสำรวจพื้นที่ สำรวจและเยี่ยมประชาชน หลังเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ เบื้องต้นยังไม่พบทรัพย์สินความเสียหาย และไม่มีรายงานบุคคลได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จึงประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติตัวเมื่อประสบเหตุแผ่นดินไหว
ด้านศาสตราจารย์ เป็นหนึ่ง วานิชชัย หัวหน้าภาควิศวกรรมโยธา และหัวหน้าโครงการลดภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวในประเทศไทย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หรือ เอไอที ระบุว่า พื้นที่อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ในอดีต เคยเกิดแผ่นดินไหวระดับนี้มาแล้วหลายครั้ง และพื้นที่ดังกล่าวก็เป็นจุดที่ถูกกำหนดไว้ในแผนที่ความเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหว แต่อยู่ในระดับปานกลาง ค่อนข้างต่ำ ซึ่งแผ่นดินไหวระดับนี้จะทำให้ตกใจได้แต่ยังไม่ถือว่าอันตราย ต้องระดับ 5 ขึ้นไปถึงจะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นชัดเจน
ขณะที่จังหวัดนครราชสีมา เกษตรกรในอำเภอบัวใหญ่ ประสบปัญหาต้นกล้าข้าวที่หว่านไม่สามารถแตกหน่อเป็นต้นข้าวได้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกลงมาในพื้นที่เป็นปริมาณมากและตกต่อเนื่อง ทำให้เมล็ดข้าวที่หว่านไปแล้วจมน้ำ และเน่าเสียจากปัญหาดินเค็ม ที่ถูกน้ำฝนซะล้างลงไปในนาข้าว ทำให้เกษตรกรหลายคนต้องพากันนำต้นกล้ามาปลูกแซมทดแทนบริเวณที่ข้าวที่เน่าเสีย เนื่องจากช่วงนี้ราคาข้าวเปลือกมีราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 18 บาทกว่า ไม่คุ้มที่จะลงทุนหว่านใหม่
จังหวัดกระบี่ นายสมชาติ พุ่มเกื้อ ชาวบ้านตำบลอ่าวลึกเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ และเพื่อนบ้าน ช่วยกันตัดต้นทุเรียนขนาดใหญ่3 ต้น ที่ทับหลังคาโรงรถได้รับความเสียหาย กระเบื้องแตก หลังจากมีฝนตกหนัก ลมพัดแรง ขณะที่ทุเรียนบนต้น ที่สุกแล้ว และยังไม่สุกหล่นลงมากระจัดกระจาย จำนวนกว่า 200 ลูก ความเสียหายกว่า 2 หมื่นบาท นอกจากนี้ ยังมีต้นเทียมสูงกว่า20เมตร ที่อยู่ริมถนนคอนกรีต 2 ต้น ล้มขวางถนน ทับสายไฟฟ้าแรงสูง เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวลึกเหนือ เข้าสำรวจความเสียหาย และเร่งแก้ไข
ด้านเรือประมงจำนวนกว่า 50 ลำ จอดเทียบท่าอยู่ที่ท่าเรือประมง ตำบลไสไทย อำเภอเมืองกระบี่ หยุดออกทะเลทำประมง ต่อเนื่อง มากว่า 5 วัน เนื่องจากทะเลมีคลื่นลมแรง
ขณะที่ เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงพังงา นำรถแบ็คโฮ และรถตักดินเร่งขุดลอกคูระบายน้ำที่ตื้นเขิน และมีวัชพืชปกคลุมเพื่อให้น้ำไหลด้วยความสะดวก เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากบนถนนเพชรเกษม ซึ่งพบว่าปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากแก้มลิงที่หายไปคูระบายน้ำข้างทางมีหญ้ารก และอุดตัน
ทั้งนี้ จังหวัดพังงามีแผนแก้ไขปัญหา 2 ระยะ คือระยะเร่งด่วน นำเครื่องจักรขุดลอกสิ่งปฏิกูลออกจากคูระบายน้ำ คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณแก้มลิงและทำให้น้ำระบายได้เร็วขึ้นประมาณ 30% ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวให้หมวดทางหลวงตะกั่วป่านำแผนที่เข้าร่วมประชุมเพื่อปรับแก้ทางวิศวกรรมให้การไหลของน้ำเกิดการสอดคล้องซึ่งกันและกัน ก่อนจะทำการของบประมาณมาทำการแก้ไขต่อไป
ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม โดยวันนี้ภาคเหนือจะมีฝนตก 80%ของพื้นที่ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานครจะมีฝน 70%ของพื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้จะมีฝน 60% ของพื้นที่
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline