เมื่อวันที่ (30 มิ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถพยาบาลที่เข้ามาช่วยเหลือระหว่างแผนซักซ้อมลำเลียงเด็กและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 ชีวิตที่วิ่งอ้อมและวนไปมา และแพทย์-พยาบาลที่ต้องเดินเท้าเข้าไปในพื้นที่ถ้ำหลวง เพราะมีรถปฏิบัติการคันอื่นจอดขวางอยู่ คืออุปสรรคใหญ่ที่นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ เชียงราย ย้ำว่า จะต้องเร่งแก้ปัญหาที่ให้ทันเวลาก่อนพบตัว 13 ชีวิตที่ติดถ้ำหลวง ครบ 1 สัปดาห์ และยอมรับว่า เป็นบทเรียนครั้งแรกและครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยสำหรับการกู้ภัยในถ้ำ จึงจำเป็นต้องถ่ายคลิปการทำงานทุกอย่างส่งส่วนกลางไปประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา
ทั้งนี้ ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ เชียงราย ยอมรับว่า ทุกหน่วยงานในเมืองไทย ที่เข้ามาช่วยเหลือ ถือเป็นมือใหม่หัดขับทุกคนในการกู้ภัยในถ้ำ และขอฝากถึงสื่อมวลชนและประชาชนที่เดินทางเข้ามา ให้ทำข่าวหรือนำเสนอเหตุการณ์ด้วยความเหมาะสม โดยเฉพาะการเฟซบุ๊กไลฟ์ในช่วงเจ้าหน้าที่เกิดความวุ่นวายระหว่างปฏิบัติงาน หลังจากนี้ หากใครฝ่าฝืนหรือขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ อาจเชิญออกนอกพื้นที่ทันที
ส่วนการที่มีผู้เชี่ยวชาญ หรือ นักทฤษฎีเข้ามาให้คำแนะนำในการค้นหาและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ ผู้ว่าฯ เชียงราย ระบุว่า ทีมงานทุกคนมีการวางแผนมาแล้วพอสมควร หากทฤษฎีหรือคำบอกเล่าไหน มีความเป็นไปได้ ก็จะทำตาม แต่ไม่สามารถทำได้ทั้งหมด เพราะบางเรื่องเคยปฏิบัติตาม เช่น การไปหาหลุม หาปล่องบริเวณถ้ำ ทำให้เสียเวลา และกำลังคนโดยเปล่าประโยชน์ ส่วนที่มีหน่วยงานสนับสนุนโดรน เรือดำน้ำ หุ่นยนต์ค้นหา ยืนยันว่ามีอุปกรณ์อยู่จริง เคยลองใช้แล้ว แต่ไม่สำเร็จ โดยสถานการณ์น้ำในถ้ำวันนี้ถือว่ามีระดับลดลง สูบน้ำออกจากทุกโถงได้แล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าลดระดับได้กี่เซนติเมตร และหลังจากนี้จะมีการแถลงข่าววันละ 2 รอบ หรือออกแถลงการณ์เผยความคืบหน้าผ่านข่าวประชาสัมพันธ์