วันนี้ (1 ก.ค.61) เมื่อเวลา 16.50 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ตำรวจ กรมปัองกันและบรรเทาสาธารณภัย และ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกันแถลงข่าวถึงสถานการณ์การช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยบอกว่า สถานการณ์ในตอนนี้มีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดี มีการสูบน้ำได้ดี น้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และได้มีการพูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่ใต้น้ำ เรื่องจะมีการพร่องน้ำว่า หากเดือดร้อนอย่างไรให้แจ้งเข้ามา ขณะที่หน่วยซีลกับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ มนุษย์กบ 60 นายดำน้ำอยู่หน้างาน สถาปนาโถง 3 เป็นจุดปฏิบัติงานของซีล โดยหน่วยซีลยืนยันว่าถ้ารุกคืบไม่ได้จะทำงานในถ้ำ ส่วนกองทัพบกส่งทีมสำรวจ 30-40 ทีม สำรวจโพรงหรือช่องทางเข้า แต่ช่องที่มีศักยภาพ 2 จุด
ส่วนกรณีผู้ที่นำ “โดรน” มาใช้งานที่บริเวณถ้ำหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ระบุว่า ขอให้ทำตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุม ตอนนี้ได้ส่งทีมของกองทัพอากาศมาช่วยดูแลการบินต่างๆ เพราะเป็นจุดใกล้ชายแดน หากไม่มีการควบคุมอาจจะกระทบความสัมพันธ์ของประเทศเพื่อนบ้าน ขอให้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ในการขึ้นทะเบียน และกลัวว่าโดรนอาจจะขัดขวางการทำงานของอากาศยานในการปฏิบัติหน้าที่
“ขอทำความเข้าใจกับเหตุหลาย ๆ เรื่องที่ทำให้ปวดหัวจึงต้องชี้แจง เรื่องแรก ไม่มีการเปิดเว็บรับบริจาคใด ๆ ทั้งสิ้น ประสานตำรวจแล้วและมีการจับกุมแล้ว 1 ราย เพราะงบราชการเพียงพอ ใครอ้างว่ารับบริจาคเพื่อปฏิบัติภารกิจนั้นขอยืนยันว่าไม่มีเด็ดขาด และหากพบจะดำเนินคดี”
ส่วนดราม่ากรณีมีคนกล่าวในออนไลน์ว่า เจ้าหน้าที่จีนเข้ามาช่วยแล้วเราไม่ดูแลให้กินข้าวเปล่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายระบุว่า ข้อเท็จจริงคือ อาหารตรงนี้มีมากมาย มีครัวพระราชทาน รวมทั้งอาหารจากพ่อแม่พี่น้อง แต่เจ้าหน้าที่จีนบางคนทานมังสวิรัติ แต่ภาพที่ออกไปดูไม่ดีต่อพวกเรา อะไรที่มันไม่จริง มันเสียหาย แค่ข้าวกล่องเดียว ตนไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของเรื่องที่เกิดขึ้น แต่บอกเลยว่าเสียหาย อาหารหน้างานเลี้ยงคนได้ 4 มื้อ วันละ 3,000 คน ส่วนกรณีดราม่าขัดแย้งกับทีมไทยอีกซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แต่ทีมจีนนั้นเป็นหน่วยงานของเอกชนอาจจะขัดข้องเรื่องการสื่อสารกันบ้าง โดยใครที่มาช่วยนั้นเรานั้นเรายินดี แต่การปฏิบัติหน้าที่ต้องอยู่ภายในหลักเกณฑ์ที่เราวางไว้
ขณะที่ พล.ต.สุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า วันนี้มีความคืบหน้าไปมาก หน่วยซีลยังไม่ได้หยุดแค่โถง 3 แต่กำลังไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ไปได้ 600 เมตรแล้ว ส่วนกำลังทางบกภาคพื้น และภูเขา ทหารบกในพื้นที่เชียงราย หน่วยรบพิเศษจากลพบุรี อากาศยานศูนย์การบินทหารบกเคลื่อนย้ายคน ยุทโธปกรณ์ทดลองการยกหิ้ว ส่วนทุกโพรงที่พี่น้องประชาชนแจ้งมา เราไม่ตัดความหวังในทุกความหวัง เราดูความเป็นไปได้ทุกโพรง วันนี้สำรวจไป 2-3 ถ้ำแล้ว ถ้ำที่พบว่าไปสุดแล้วจะใช้เครื่องมือว่าจะไปต่อได้หรือไม่ ตอนนี้นำเครื่องมือเข้าไปแล้ว และก็มีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯนำเครื่องมือไปเสริมแล้ว โดยใช้เครื่องเจาะตามพิกัดที่ตรงกับแนวถ้ำต่างๆ มีวิศวกร เทคโนโลยี สแกนหาผิวพื้นว่าด้านในมีโพรงใดๆบ้าง ก็จะเจาะตามเครื่องคำนวณที่วิเคราะห์มาเพื่อเข้าไปในถ้ำให้ได้ ตอนนี้ก็ยังไม่หยุดยังมีการทำงานกันอยู่
ส่วนการระบายน้ำ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่า กำลังทหารบกเป็นส่วนหนึ่งขนอุปกรณ์และช่วย ปภ.สูบน้ำออก และได้เปิดพื้นที่ใหม่ที่ถ้ำทรายทองเพื่อระบายน้ำให้เร็วขึ้น ได้รับเครื่องสูบน้ำจากเอกชนมาสนับสนุนให้รวดเร็ว เจาะน้ำบาดาลเพื่อเร่งระบายออกเพราะเชื่อว่าระบบน้ำเชื่อมโยงกับถ้ำหลวง ก็จะทำให้ถ้ำหลวงน้ำลดลงไปด้วย
ด้าน “กอบชัย บุญอรณะ” รองอธิบดีกรมปัองกันและบรรเทาสาธารณภัย บอกว่า มีแนวทางพร่องน้ำในถ้ำและนอกถ้ำ ตอนนี้มีผู้เสนอแนวคิดมากมาย แต่ต้องนำมาคุยทางวิชาการจากหลายภาคส่วนเพื่อวิเคราะห์ว่ามีโอกาสมากน้อยขนาดไหน เรื่องระบบต่างๆ เพื่อขออนุญาตผู้บริหารในการทำงาน ส่วนผู้เชี่ยวชาญก็ได้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว ผลสรุปจะเป็นอย่างไรก็จะมีการทยอยอุปกรณ์ต่างๆเข้ามา หน่วยที่สนับสนุนเทคนิคต่างๆ ตกลงกันแล้วว่าสิ่งของต่างๆจะเอาไว้ข้างนอกถ้าจำเป็นแล้วจะเอาเข้ามา
สำหรับ ปภ. มีเครื่องมือพวกระบบกู้ภัยต่างๆ มีเจ้าหน้าที่ 100 กว่าคนค้นหาตามแนวนอกถ้ำต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ส่วนเครื่องมือในการสูบน้ำจะใช้ทุกวิธิการในการพร่องน้ำให้ได้ บริเวณนอกถ้ำทุกส่วนที่คาดว่าจะช่วยได้จะร่วมมือ ปภ. กับ ชลประทาน มาเร่งสูบน้ำบริเวณหนองน้ำพุ และ หนองนางนอน ในเรื่องของเทคนิคทางวิชาการ ใครมีข้อคิด มีข้อเสนอสามารถติดต่อมาให้ข้อมูลได้
ส่วน “พล.ต.ต. ชูรัตน์ ปานเหง้า” รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยืนยันว่า ถ้ำหลวงไม่ใช่เส้นทางลำเลียงยาเสพติด หรือ เป็นแหล่งซุกซ่อนยาเสพติด และยาเสพติดไม่ได้ออกจากถ้ำหลวง แต่จับได้จากตำบลน้ำจำ ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหาคนเดียว ขับรถ 1 คัน มียาบ้า 1 ล้านเม็ด วิ่งตามพหลโยธิน ขณะที่สภาพภูมิประเทศเทือกเขาแดนลาว ไทย-พม่า ที่มีข่าวลำเลียงยาเสพติดจะผ่านสันเขา ไม่เคยมีการมุดลอดถ้ำมา เรื่องนี้มีการมอบหมายให้กองกำลังผาเมืองเป็นผู้ดูแล และได้มีการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ มีการปะทะหลายครั้ง ยืนยันไม่เกี่ยวกับถ้ำหลวง
ส่วนกระแสข่าว ตชด. ถอนกำลัง ไปเจอจุดอะไรหรือไม่นั้น รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ระบุว่า เมื่อสอบถาม ตชด.แล้ว ไปทำงานเพราะเจอทางตัน ช่องตันเลยถอนออกมา ตามภารกิจที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย