นักวิชาการ เห็นด้วย นำ 13 ชีวิตออกจากถ้ำ แต่หวั่นออกซิเจนไม่พอ

เผยแพร่ 8 ก.ค. 2561 ,15:28น.

การตัดสินใจเริ่มลำเลียงเด็กและโค้ช 13 คน ออกจากพื้นที่เนินนมสาว ภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ในวันนี้ นักวิชาการด้านฟิสิกส์ และกรมอุตุนิยมวิทยา เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะระดับออกซิเจนจุดที่ทั้งหมดติดอยู่ สามารถอยู่ได้อีกเพียง 2-3 วันเท่านั้น และหลังจากนี้อาจเกิดฝนตกหนัก จนส่งผลกระทบกับระดับน้ำในถ้ำ

ภาพนี้ถูกโพสต์ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก “Thai Navy SEAL” หลังนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย หรือ ศอร. แถลงข่าวว่า วันนี้จะเริ่มนำเด็กและโค้ช ออกจากพื้นที่เนินนมสาว ข้อความใต้ภาพนี้ ระบุว่า “เรา...ผนึกกำลังทั้งทีมไทยและทีมนานาชาติ นำน้องๆทีมหมูป่า...กลับบ้าน” ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้เห็นว่า ทีมช่วยเหลือทั้งไทยและต่างชาติเริ่มภารกิจนำทั้ง 13 คนออกจากถ้ำ

การตัดสินใจของทีมช่วยเหลือที่จะเริ่มภารกิจวันนี้ นักวิชาการจากกรมอุตุนิยมวิทยา เห็นด้วย เพราะหากวิเคราะห์จากภาพถ่ายดาวเทียมของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะเริ่มมีฝนตกหนัก ไปจนถึงวันที่ 12 กรกฎาคม และอาจส่งผลต่อระดับน้ำในถ้ำและการช่วยเหลือทั้ง 13 คน

คอนเทนต์สำหรับคุณ By Blue Dot

เนื้อหาคัดสรรคุณภาพ

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า การลำเลียงเด็กและโค้ชทั้ง 13 คนออกจากเนินนมสาว ควรทำให้เสร็จภายใน 2-3 วัน เพราะหากวิเคราะห์จากรายงานข่าวที่ระบุว่าระดับออกซิเจน บริเวณเนินนมสาวเหลือประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นอยู่ในจุดที่วิกฤต ที่เสี่ยงจะเป็นอันตรายกับร่างกาย

นายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ จุฬาฯ ระบุว่า หากการลำเลียงวันนี้ไม่สามารถนำทุกคนออกมานอกถ้ำได้ ควรให้ไปอยู่บริเวณโถง 3 เนื่องจากเป็นช่วงโถงกว้าง และมีระดับออกซิเจนเพียงพอ