นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติกรณีที่บริษัทภาพยนตร์ของฮอลลีวูด เตรียมนำเรื่องราวปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 หมูป่าอะคาเดมี ติดในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษระดับชาติขึ้นมาดูแลการจัดทำภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องทั้งไทยและต่างประเทศ มีหน้าที่ดูแลการผลิตภาพยนตร์ สารคดี วีดีทัศน์เนื้อหา เรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังดูแลเรื่องการคุ้มครองข้อมูลความเป็นส่วนตัวของเยาวชนทั้ง 13 คน บุคคลที่เกี่ยวข้อง ความเหมาะสมในทุกด้าน และภาพลักษณ์ของประเทศไทย รวมถึงในการจัดทำภาพยนตร์ของทุกบริษัทจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการและผ่านการตรวจสอบบทภาพยนตร์ซึ่งเป็นเรื่องปกติในการทำงาน หากจะมีการเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย โดยคณะกรรมการพิเศษที่จัดตั้งขึ้น คาดว่า จะมีจำนวนไม่เกิน 20 คนประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์และบุคคลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จริง ทั้งจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ โดยจะเสนอรายชื่อคณะกรรมการเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า
รมว.วัฒนธรรม ยังอธิบายว่า แม้ในหลักการถ่ายทำภาพยนตร์ หรือ การตรวจสอบบทภาพยนตร์ หากเป็นบริษัทจากต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย โดยปกติกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเป็นผู้ดูแล แต่สำหรับกรณีนี้มีเรื่องของเยาวชนที่ละเอียดอ่อนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา
ส่วนบริษัทผลิตภาพยนตร์จากต่างประเทศที่สนใจ จะผลิตภาพยนตร์ เบื้องต้นมีติดต่อเข้ามา จำนวน 5 บริษัท แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อของบริษัทและคาดว่าหากดำเนินการถ่ายทำจริง จะใช้ระยะเวลาในการผลิตเป็นปี
นอกจากนี้กระทรวงวัฒนธรรม ยังได้รายงานต่อที่ประชุมถึงการจัดทำจดหมายเหตุ ซึ่งจะบันทึกเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะสามารถใช้เป็นข้อมูลที่ให้บริษัทผลิตภาพยนตร์ทั้งไทยจากต่างประเทศใช้อ้างอิงได้