วันนี้ (31 ก.ค.61) นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม คณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบ มาตรการพักหนี้เกษตร 3 ปี ที่เป็นลูกค้าของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือ ธกส. ที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติ โดยที่เป้าหมายอยู่ที่3.81 ล้านรายทั่วประเทศ โดยแบ่งออกเป็น2โครงการย่อย คือ โครงการขยายเวลาการชำระหนี้เงินต้นออกไป 3 ปี ให้กับเกษตรกรโดยไม่มีกำหนดสินเชื่อขั้นต่ำ แต่ไม่รวมเกษตรกรที่เป็นนิติบุคคล โดยผู้ขอรับสิทธิ์ต้องแจงความจำนงค์มายัง ธกส. ระยะเวลาของโครงการจะเริ่มตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2561 – 31 กรกฎาคม 2564 ภายใต้เงื่อนไขว่าเกษตรกรต้องชำระดอกเบี้ยอย่างน้อยปีละครั้ง และโครงการลดดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรรายย่อย โดยให้สิทธิ์ลูกหนี้ ธกส. ทุกคนที่มีหนี้300,000บาท และให้เพียงสิทธิ์ดอกเบี้ยของ 300,000 บาทแรกเท่านั้น เป็นระยะเวลา 1 ปีตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2561 – 1 กรกฎาคม 2561 โดยที่รัฐบาลชดเชยให้ 2.5 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี บวกกับ ธกส.ชดเชยให้ 0.5 เปอร์เซ็นต์
โดยที่ใช้งบประมาณกลางปี2561 จำนวน 2,724 ล้านบาท เพื่อมาชดเชย 2 เดือนแรกของการลดดอกเบี้ย ส่วนดอกเบี้ยที่ต้องชดเชยอีก 10 เดือน 13,580 ล้านบาทให้กระทรวงการคลังใช้งบประมาณกลางปี 2562 เข้ามาจัดสรรอีกครั้ง
ด้านนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปภาคเกษตร และช่วงที่พักชำระหนี้3ปี เกษตรกรที่เข้าโครงการ ก็ต้องปลูกพืชอื่นๆ หลังฤดูทำนา โดยที่รัฐบาลจะใช้วิธีการหาตลาดนำการผลิตให้ เพื่อช่วยเกษตรวางแผนเพาะปลูกพืชอื่นๆ และกำหนดรายได้ได้ชัดเจน
นอกจากนี้ที่ประชุมยังอนุมัติ โครงการรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ให้ กระทรวงคมนาคมใช้งบประมานในการดำเนินการประมาน 85,000 ล้านบาท ระยะทาง 323 กิโลเมตร โดยมีเส้นทางผ่าน 4 จังหวัด คือ เริ่มที่สถานีเด่นชัยจังหวัด แพร่, ผ่านลำปาง, พะเยา, เชียงราย และสิ้นสุดที่พรหมแดนเชียงของ มีทั้งหมด 26 สถานี โดยดำเนินการตลอดระยะเวลา 4 ปี เริ่มก่อสร้างปี 2562 เปิดใช้งานปี 2565 ซึ่งจะช่วยรองรับการเดินทางและขนส่งสินค้าภาคเหนือ ไปจนถึง สปป.ลาว เชื่อมประเทศจีน และเวียดนาม
ทั้งนี้ที่ประชุมยังอนุมัติงบประมาน 468 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ประจำปี2561ของกองทัพบก 47 โครงการ กระจายไปในพื้นที่4 ภาคทั่วประเทศ และอนุมัติยกระดับ จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านฮวก อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวรเพื่อเชื่อมการค้าระหว่างไทย-ลาวให้เติบโตขึ้น