วันนี้ ( 1 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ตง” และ “จิตแพทย์” จะเป็นประจักษ์พยานคนสำคัญที่นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ จะยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาใช้อำนาจมาตรา 208 สืบพยานทั้ง 2 คนเพิ่มเติมเพื่อสู้คดีให้ครอบครัวทัฬหสุนทร เรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกชายที่ถูกแทงในซอยประชาสงค์เคราะห์ 1 และ สามีที่กระโดดตึกเพราะผิดหวังกับกระบวนการยุติธรรม ซึ่ง “ตง” ถือว่าเป็นพยานที่ถูกเชื่อว่ามีน้ำหนักมากพอให้ศาลพิจารณารับคำร้อง เพราะ เคยให้การกับตำรวจ สน.ดินแดง เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2559 ว่า เห็น “โจ้” ใช้มีปลายแหลมยาว 1 ฟุตที่เหน็บไว้บริเวณเอวด้านหลัง แทงเข้าไปที่ร่างของ “เต้” ลูกชายคนกระโดดชั้น 8 ศาลอาญา แต่ภายหลังกลับไม่ขึ้นไต่สวนในศาลชั้น โดยอ้างว่าผ่านใบรับรองแพทย์ว่าป่วยทางจิต
นายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า ในสำนวนคดีไม่พบของมีคมที่ใช้แทง “เต้” ลูกของชายคนกระโดดชั้น 8 ศาลอาญา ไม่พบเสื้อผ้าของ “โจ้” วันที่ใส่ไปเล่นน้ำ และ ครอบครัวของ “ตง” กลับคำให้การ ส่งผลต่อรูปคดี เพราะข้อต่อสู้ในตอนนี้จะเน้นหนักไปที่พยานแวดล้อมเห็นเหตุการณ์ ที่เคยให้ปากคำกับตำรวจเมื่อปี 2559 ซึ่งจะต้องสืบพยานเพิ่มเติมตรงนี้ให้ได้
ส่วนพยานบุคคลปากใหม่ 3-4 คนที่พนักงานสอบสวนเรียกตัวมาสอบปากคำในฐานะพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทนายอนันต์ชัย ยืนยันว่า จะไม่นำกลุ่มนี้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อขอสืบพยานเพิ่ม เพราะพยานกลุ่มนี้อยู่นอกสำนวนของตำรวจตั้งแต่แรก อาจจะกระทบกับรูปคดีที่กำลังต่อสู้ และในทางกฎหมายไม่สามารถนำหลักฐานใหม่สืบพยานเพิ่มเติมชั้นอุทธรณ์ได้ อาจจะถูกมองว่าเป็นการเอาเปรียบ “โจ้” จำเลยในคดีมากเกินไป