เมื่อวานนี้ (7 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถไฟฟ้าบีทีเอสขบวนแรก จากกรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี ได้เดินทางมาถึง ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี สำหรับรถไฟฟ้าขบวนแรกนี้ เป็นขบวนรถไฟในจำนวนทั้งหมด 22 ขบวน ที่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจาก บริษัทซีเมนส์ จำกัด เพื่อนำมารองรับปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสในปัจจุบัน และส่วนต่อขยาย สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร ซึ่งมีกำหนดจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนในเดือนธันวาคม 2561
โดยประกอบด้วยสถานีรวมทั้งสิ้น 9 สถานี ซึ่งเมื่อปี 2560 ได้เปิดให้บริการ จำนวน 1 สถานีคือ สถานีสำโรง และอีก 8 สถานีที่จะเปิดให้บริการปลายปีนี้ คือ สถานีปู่เจ้า, สถานีช้างเอราวัณ, สถานีโรงเรียนนายเรือ, สถานีปากน้ำ, สถานีศรีนครินทร์, สถานีแพรกษา, สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ
ทั้งนี้เมื่อส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ และช่วง หมอชิต - สะพานใหม่ –คูคต เสร็จเรียบร้อย รวมทั้งเส้นทางของรถไฟฟ้าในปัจจุบัน จะส่งผลให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 68.25 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชนจากชานเมืองเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัยและประหยัดเวลา
ขณะที่ขบวนรถไฟฟ้าใหม่ จากบริษัทซีเมนส์ นี้ ทำการออกแบบโดยผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ในเยอรมนี และออสเตรีย เป็นส่วนใหญ่ จากนั้นนำมาประกอบที่โรงงานของบริษัท Bozankaya ประเทศตุรกี ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้ากับบริษัทซีเมนส์ และเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญการผลิตชิ้นส่วนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยรถไฟฟ้าขบวนใหม่นี้ จะมีการปรับรูปโฉมให้ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากขึ้น รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในขบวนรถที่ช่วยประหยัดพลังงาน และมีพื้นที่จุคนได้มากขึ้นใน
นอกจากนี้สิ่งที่เปลี่ยนแปลง คือ เพิ่มราวจับเป็น 3 แถว ที่นั่งแบบ perch seat เป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของที่นั่งทั้งหมดในขบวน โดยที่นั่งแบบ perch seat ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อยกว่าปกติ และให้ผู้โดยสารยืนพิงเพื่อพักสะโพกเท่านั้น พร้อมพื้นสีแดง ทำให้ดูสว่างขึ้น ติดตั้งกล้อง CCTV จอตรงประตูสำหรับบอกสถานีจะเป็นจอ LED และที่สำคัญ ความจุผู้โดยสาร 1 ขบวน จากเดิม 1,490 เป็น 1,573 คน หรือเพิ่มขึ้น 83 คน