หน่วยงานบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NOAA) ซึ่งมีหน้าที่ติดตามสภาพของมหาสมุทร ท้องฟ้า และชั้นบรรยากาศ ได้เผยรายงานในการประชุมใหญ่ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้
รายงานดังกล่าว มีใจความว่า ตอนนี้รัฐบาลต่างๆ ทั่วโลก ยังดำเนินการไม่เพียงพอ ในการจำกัดไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงไปกว่าระดับที่ตกลงกันไว้ ในข้อตกลงปารีสว่าด้วยการแก้ปัญหาโลกร้อน ซึ่งต้องการจะจำกัดอุณหภูมิไม่ให้สูงเกิน 2 องศาเซลเซียส พร้อมเตือนว่า หากทั่วโลกยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับปัจจุบันต่อไป อุณหภูมิโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 3 องศาเซลเซียส
รายงานดังกล่าวมีความยาว 33 หน้า ของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ NOAA ครั้งนี้ ซึ่งตรวจพบความผิดปกติในสภาพอากาศทั่วโลก เปรียบเสมือนเป็นการเตือนครั้งสุดท้าย
เป้าหมายการจำกัดอุณหภูมิไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ยังคงเป็นไปได้ แต่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ มีการร่วมกันผลักดันมาตรการที่มีผลเป็นวงกว้างในสังคมอย่างฉับพลัน
1. ลดการปล่อย CO2 ลง 45% ภายในปี 2030
2. เพิ่มสัดส่วนในการใช้พลังงานทางเลือกสำหรับการผลิตไฟฟ้า ให้ถึง 85% ภายในปี 2030 (อีก 11 ปี)
3. ลดการใช้พลังงานถ่านหิน ลงให้เหลือ 0 ( เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย )
4. จัดสรรที่ดิน 7 ล้าน ตารางกิโลเมตร สำหรับการปลูกพืชพลังงาน (ขนาดพอๆกับประเทศออสเตรเลีย)
5. หยุดการปล่อยมลพิษทั่วโลก ภายในปี 2050
นักวิทยาศาตร์เตือนว่าหากอุณหภูมิสูงกว่านี้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส จะเกิดการเปลี่ยนแปลงถาวรต่อระบบนิเวศ
แนวปะการังทั่วโลกจะหายไปทั้งหมด เพราะไม่สามารถทนอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นอีก 2 องศาได้ ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 10 เซนติเมตร ประชากรกว่า 10 ล้านคนเสี่ยงจะเจอปัญหาน้ำท่วม ผลิตผลทางการเกษตรอย่างข้าว ข้าวโพด และข้าวสาลี จะได้รับผลกระทบอย่างมาก
ขณะที่น้ำแข็งขั้วโลกจะละลาย – ถึงตอนนี้ก็มีสัญญาณเตือนให้เห็นบ้างแล้ว อาทิ การที่ต้นไม้ที่มีอายุเก่าแก่เป็นร้อยๆ ปี เริ่มตายลง
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้