จากกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี กว่า 300 คน รวมตัวกันคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัทเอกชนในพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง โดยชาวบ้านเกรงว่าจะเกิดผลกระทบ เพราะโรงไฟฟ้าแห่งแรกที่มีอยู่ ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านมานานหลายปี รวมทั้งจะสร้างมลพิษทางอากาศ มีฝุ่นละออง และ ประชาชนกว่า 4,000 ครัวเรือนในชุมชนจะได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากโรงไฟฟ้าชีวมวลมีที่ตั้งอยู่ใจกลางชุมชน หากปล่อยให้มีการดำเนินการเสร็จแล้วก็ยากที่จะแก้ไขได้ ดังนั้นจึงได้รวมกันคัดค้านมาโดยตลอด
นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งข้อสังเกต กรณีชาวบ้านในหลายพื้นที่ คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะในเกือบทุกพื้นที่ โดยระบุว่า คำสั่งคสช.ฉบับที่ 4/2559 ให้ยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายผังเมืองรวมสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าขยะ ดังนั้นสร้างโรงไฟฟ้าขยะที่ไหนก็ได้ไม่มีผังเมืองบังคับ ทำให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะ ใกล้กับชุมชนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศให้โรงไฟฟ้าจากขยะตั้งแต่10 เมกะวัตต์ ไม่ต้องจัดทำรายงานอีไอเอ
สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน รับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชนขนาดมากกว่า 3 เมกะวัตต์ ในราคา 5.08-5.60 บาทต่อหน่วย ทำให้เกิดการจูงใจให้ลงทุนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ สามารถสรุปได้ว่า เหตุที่ประชาชนคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะ เนื่องจาก เรื่องกลิ่นเหม็น รถขยะวิ่งผ่านหน้าบ้าน โรงไฟฟ้าขยะตั้งใกล้ชุมชนได้ในระยะ ไม่มีกฏหมายผังเมืองห้าม ไม่ต้องทำรายงานอีไอเอ ราคาขายไฟฟ้าจูงใจให้ผู้ประกอบการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าขยะได้ทุกแห่งที่มีขยะเพียงพอและองค์การปกครองท้องถิ่นหรือผู้นำชุมชนเห็นด้วย
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้