เมื่อต้นปีที่ผ่านมา คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต มีมติไล่ ‘นางรจนา สินที’ ออกจากราชการฐานทุจริตเงินในกองทุนนาน 10 ปี ผ่านมาเกือบ 1 ปี ผู้สื่อข่าวพีพีทีวีตรวจสอบพบว่า ‘นางรจนา’ ถูก ปปง. ดำเนินคดีฐานสมคบร่วมกันฟอกเงินเพิ่ม และเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลใหม่ทั้งหมด

วันนี้ (14 ธ.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางกมลรส ปณตพรสรวง คือ ชื่อ-นามสกุลใหม่ของ นางรจนา สินที ข้าราชการระดับ 8 กระทรวงศึกษาธิการที่ถูกไล่ออกจากข้าราชเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา หลังเธอถูกตรวจสอบพบว่าทุจริตเงินในกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ไม่โอนเข้าสถานศึกษาที่มีเด็กได้รับทุนตั้งแต่ปี 2551-2561 นาน 10 ปี โดยชื่อและนามสกุลใหม่ของนางรจนา สินที ปรากฏอยู่ในบันทึกประจำวันของ สน.ดุสิต ซึ่งนิติกรชำนาญการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เมื่อวันที่ 19กันยายน ฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงิน หลังพบเส้นทางการเงินในบัญชีกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตถูกนางรจนาโอนไปให้ญาติและคนใกล้ชิดก่อนจะให้โอนคืนกลับมาในบัญชี นางรจนา หรือ นางกมลรส และ นายวิโรจน์ ทองคำ เพื่อนำไปซื้อที่ดินและสร้างบ้าน พฤติกรรมนี้จึงถูกมองว่าจงใจเพื่อปกปิดและอำพรางการฟอกเงิน
นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า การทุจริตเงินกองทุนเสมาฯ เป็นบทเรียนราคาแพงให้กระทรวงศึกษาธิการต้องวางระบบข้าราชการที่ทำงานด้านการเงินและการตรวจสอบครั้งใหญ่ ตอนนี้อยู่ระหว่างทำร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต พ.ศ. .... ใหม่ เพื่ออุดช่องโหว่ที่เอื้อให้เกิดการทุจริต เช่น การโอนผ่านบัญชีทุกครั้งต้องระบุ ชื่อ-นามสกุลผู้รับเงินในกองทุนทุกครั้ง ยกเลิกการสุ่มตรวจเป็นการตรวจสถานศึกษาทุกแห่งและทุกปี
โดยหากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2551-2561 มีการตรวจสอบพบว่านางรจนาทุจริตโอนเงินกองทุนเสมาฯกว่า 37 ล้านบาท ให้ญาติและคนรู้จัก จากนั้นได้มีการถ่ายโอนเงินกลับคืนมาที่นางรจนา และ นายวิโรจน์ จนพบความผิดปกติและถูกดำเนินคดี ล่าสุดสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้อายัดทรัพย์สินทางคดีแพ่งแล้ว ส่วนใหญ่เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดิน น.ส.3 ก. และรถยนต์ส่วนบุคคล ขณะที่การตรวจสอบการทำหน้าที่ของข้าราชการที่เกี่ยวข้องคนอื่นยังไม่มีใครถูกลงโทษทางวินัยร้ายแรง ยังอยู่ในกระบวนการสืบข้อเท็จจริง
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้