เมื่อวันที่ (18 ธ.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายกระเช้าของขวัญในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ และการจัดงานมหกรรมลดราคาสินค้า “ลดหนักจัดเต็ม New Year Grand Sale” ว่า ขณะนี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดเพิ่มเติมจากการออกตรวจสอบที่ดำเนินการเป็นประจำอยู่แล้ว และได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก ค้าส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านจำหน่ายสินค้าให้มีการปิดป้ายแสดงราคากระเช้าของขวัญหรือชุดของขวัญต้องมีการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจนพร้อมแสดงรายการสินค้า ขนาดน้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุและราคาสินค้าแต่ละรายการที่บรรจุในกระเช้า รวมทั้งค่ากระเช้าหรือภาชนะที่บรรจุ ค่าวัสดุตกแต่ง
กรณีที่สินค้ามีหลายรายการไม่สามารถปิดป้ายแสดงราคาและรายการสินค้าไว้ที่กระเช้าหรือชุดของขวัญ ได้ให้จัดทำบัญชีแสดงรายการสินค้าพร้อมราคาสินค้าในกระเช้าหรือชุดของขวัญแต่ละรายการติดไว้ที่กระเช้าหรือ ชุดของขวัญวางไว้บริเวณใกล้เคียง และต้องแสดงรายการและราคาสินค้าด้วยขนาดตัวอักษรและตัวเลข (FONT) ตั้งแต่ขนาด 16 ขึ้นไป หรือมีขนาดเทียบเท่า อีกทั้งยังกำชับไม่ให้นำสินค้าที่ใกล้หมดอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเสื่อมคุณภาพมาจัดลงในกระเช้าหรือชุดของขวัญ
สำหรับในช่วงสัปดาห์ใกล้วันหยุดปีใหม่ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าและให้บริการบริเวณสถานีขนส่งและสถานีรถไฟทั่วประเทศอีกครั้ง เพื่อป้องปราบไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้บริโภค เพราะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับบ้านหรือไปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด ทั้งนี้ หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หรือสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 กระทรวงพาณิชย์จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ