สายตาของพุทธศาสนิกชนทั้งไทยและลาว จับจ้องไปที่เรือลาดตระเวน 169 ซึ่งเป็นเรือของหน่วย นรข.ลอยลำอยู่กลางแม่น้ำโขง ใกล้กับพระธาตุกลางน้ำ จ.หนองคาย ทันทีที่เถ้าอัฐิของหลวงพ่อลอยลงสู่แม่น้ำโขง เสียงภาวนาของพุทธศาสนิกชนกราบลาหลวงพ่อคูณเป็นครั้งสุดท้าย ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณพิธีซาบซึ้งถึงทานบารมีของหลวงพ่อคูณที่มีต่อพุทธศาสนิกชน แม้ว่าแดดจะร้อนแค่ไหนก็ไม่ทำให้แรงศรัทธาลดน้อยลงเฝ้ารอจนจบพิธี
พิธีลอยอังคารเถ้าอัฐิ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ “ มีเรือของหน่วย นรข.ตำรวจน้ำ และเรือของเอกชนกว่า 10 ลำ โดยจะล่องไปตามแม่น้ำโขง ขบวนเรือจะเคลื่อนไปยังสะพานมิตรภาพไทยลาว แล้วเลี้ยวกลับที่พระธาตุกลางแม่น้ำโขง ระยะทางไปและกลับประมาณ 10 กิโลเมตร แล้วจะวนรอบพระธาตุกลางน้ำจำนวน 3 รอบ จึงเริ่มทำพิธีโยนเหรียญจำนวน 9 เหรียญข้าวตอกดอกไม้พวงมาลัย และเริ่มลอยอัฐิและอังคารลงในบริเวณพระธาตุกลางแม่น้ำโขง ตามพินัยกรรมของ “หลวงพ่อคูณ”
หลังจากนี้ทางจ.หนองคายเตรียมที่จะทำรูปเหมือนหลวงพ่อคูณ และนำมาประดิษฐานที่บริเวณสถานีเรือหนองคาย เพื่อเป็นอนุสรณ์ในพิธีลอยอังคารเถ้าอัฐิของหลวงพ่อคูณ และไว้สำหรับให้ประชาชนได้ระลึกถึงคำสอนของหลวงพ่อในคติธรรมต่างๆที่หลวงพ่อคูณได้เคยสั่งสอนเอาไว้ก่อนละสังขาร สำหรับพิธีลอยอังคารเป็นไปตามพินัยกรรม ของหลวงพ่อคูณ ที่ระบุเอาไว้ ว่าให้นำเท่าอัฐิของท่านมาลอยอังคารในแม่น้ำโขง จ.หนองคาย