อีกหนึ่งความกังวลใจของคนมีรถยนต์ เพราะ “หน้าฝน” ทีไรก็กลัวทั้งอุบัติเหตุ ทั้งยังกังวลว่ารถอาจจะถูกน้ำท่วม
เพราะฝนที่ตกหนักมาต่อเนื่องหลายวัน ทำให้หลายพื้นที่มีระดับน้ำเพิ่มสูง น้ำท่วมขัง ระบายไม่ทัน ทำให้รถยนต์ของเราที่จอดไว้ได้รับความเสียหาย แต่หากเราทำประกันรถยนต์ที่คุ้มครอง “น้ำท่วมรถ” ก็จะช่วยแบ่งเบาค่าซ่อม ค่าใช้จ่ายได้
โดยความคุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วม จะแบ่งเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือ สูญเสียโดยสิ้นเชิง และ เสียหายบางส่วน
ฝนตก น้ำท่วม รถจมน้ำ ทำอย่างไร ?
กูรูรถยนต์ แนะวิธีกู้ชีพรถหลังน้ำท่วม
เคล็ดลับขับรถลุยน้ำท่วมให้ปลอดภัย (คลิป)
-ประกันภัยชั้น 1
-ประกันภัยชั้น 2+ (ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์)
-ประกันภัยชั้น 3+ (ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์)
ลักษณะน้ำท่วมรถที่ “เคลมได้”
-เกิดน้ำท่วมจากภัยพิบัติธรรมชาติ
เช่น จอดรถในบ้าน แล้วมีพายุฝนถล่มนานหลายวัน จนน้ำทะลัก ย้ายรถหนีไม่ทัน รถถูกน้ำเข้าเสียหาย
-รถติดบนถนนขณะฝนตกหนักจนน้ำท่วม
ซึ่งแต่ละกรมธรรม์จะให้ความคุ้มครองที่ต่างกันไป
ลักษณะน้ำท่วมรถที่ “เคลมไม่ได้”
-ขับรถไปลุยน้ำท่วมขังบนถนน
เช่น กำลังขับรถบนถนน เห็นน้ำท่วมขัง แล้วตัดสินใจขับลุยน้ำ จนน้ำเข้าห้องเครื่อง หรือห้องโดยสาร ได้รับความเสียหาย เป็นเหตุที่เกิดจากความประมาทของเรา กรณีนี้ “ไม่รับเคลม” แต่ก็มีบางประกันภัย ที่ช่วยค่าเสียหายบางส่วน (แล้วแต่กรณี)
วิธี 'เคลม' ประกันภัย
1.ถ่ายรูปรถในขณะถูกน้ำท่วม ควรถ่ายเห็นป้ายทะเบียน เพื่อเป็นหลักฐาน
2.โทรหาบริษัทประกันภัย เพื่อตรวจสอบประเภทกรมธรรม์ แล้วรอพนักงานเคลมประกันประสาน รถยก รถลาก
3.นัดหมายการตรวจสภาพความเสียหายกับเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย เพื่อเตรียมซ่อม
4.รอรับบริการซ่อมแซมจากอู่กลางที่สะดวกในการเดินทาง ทั้งเราและเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย
อ้างอิง เงินติดล้อ,ทิพยประกันภัย
