เทศกาลกินเจ ประจำปี 2564 ตามปฏิทินจีนจะตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 และมักจะตรงกับเดือน 11 หรือเดือนตุลาคมของไทย ตามปฏิทินสากล รวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 9 วัน 9 คืน โดยปีนี้จะตรงกับวันที่ 6 – 14 ตุลาคม แต่บางคนก็จะเริ่มกิน 1 วัน หรือบางคนอาจจะเริ่มทานเจ ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมาแล้วก็ได้ ซึ่งในเทศกาลดังกล่าว จะมีผู้รับประทานเจ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ
แนะวิธีกินเจ กินคลีน กินอย่างไรให้สุขภาพดี ต้านชรา
ใช้จ่ายกินเจ ปี64 ต่ำสุดในรอบ 14 ปี
กลุ่มที่เคร่งครัดด้วยการทานอาหารที่โรงเจ เข้าร่วมพิธีรับเจ้า ส่งเจ้า พร้อมกับสวมชุดขาวห่มขาวและรักษาศีล 8 แต่บางคนรับประทานเจ แบบไม่ได้เคร่งครัด เพียงแต่หลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ ในช่วงระยะเวลาที่มีเทศกาลเท่านั้น
แต่คุณรู้หรือไม่ คำว่า “เจ” ในภาษาจีนทางพระพุทธศาสนานั้น หมายถึง “อุโบสถ หรือการรักษาศีล 8” โดยศาสนาพุทธนิกายมหายาน ที่จะรักษาอุโบสถศีล ไม่บริโภคอะไรหลังเที่ยงวันตามหลักศีล 8 ข้อ และไม่บริโภคเนื้อสัตว์ เพื่อเป็นการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต ช่วงหลังจึงเรียกคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ว่า “กินเจ” ไปด้วย
ดังนั้นแก่นแท้ของการ “กินเจ” หมายถึงการรักษาศีล ประพฤติปฏิบัติตัว อยู่ในศีลในธรรมทั้งกาย วาจา และใจ จึงจะเป็นการ “การถือศีล-กินเจ” อย่างแท้จริงไม่ใช่หมายความเพียงการไม่รับประทานเนื้อสัตว์เท่านั้น
ทั้งนี้ก่อนจะเริ่มรับประทานเจ ทุกคนควรล้างท้อง คำว่าล้างท้องในที่นี้ไม่ใช่การผ่าท้องออกมาแล้วเอาน้ำมาล้าง หรือใส่สายยางแล้วกรอกน้ำเข้าไปนะ แต่หมายถึงการเตรียมร่างกาย ให้พร้อมกับการที่จะไม่ได้กินเนื้อสัตว์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
โดยส่วนมากจะนิยมงดเว้นเนื้อสัตว์ ผัก และอาหารต้องห้ามทุกชนิดก่อนกินเจจริงประมาณ 1-2 วัน เพื่อชะล้างเนื้อสัตว์ หรืออาหารคาวต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกให้หมดสิ้น เมื่อถึงวันถือศีลกินเจ ร่างกายจะได้สะอาด พร้อมถือศีลตามประเพณี
และในการกินเจ ยังมีประโยชน์กับร่างกาย อาทิ
- ร่างกายสามารถขับถ่ายของเสียออกให้หมด ทำให้ไม่มีสารพิษตกค้างอยู่ภายใน สารอาหารที่มีคุณค่าในพืชผักสดผลไม้ช่วยให้การขับถ่าย และการย่อยเป็นปกติ
- เมื่อรับประทานเป็นประจำ โลหิตจะถูกฟอกให้สะอาดขึ้นเรื่อยๆ เซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายเสื่อมสลายช้าลง ทำให้อายุยืนยาว ผิวพรรณสดชื่น ผ่องใส นัยน์ตาแจ่มใส ไม่พร่ามัว ร่างกายแข็งแรง รู้สึกเบาสบาย ไม่อึดอัด มีสุขภาพอนามัยดี
- อวัยวะหลักสำคัญภายในและอวัยวะประกอบทั้ง 5 แข็งแรง ทำงานได้เป็นปกติสมบูรณ์มีสมรรถภาพสูง (อวัยวะหลักภายในทั้ง 5 ได้แก่ หัวใจ, ไต, ม้าม, ตับ, ปอด) (อวัยวะประกอบทั้ง 5 ได้แก่ ลำไส้เล็ก, ลำไส้ใหญ่, กระเพาะปัสสาวะ, กระเพาะอาหาร, ถุงน้ำดี)
- ร่างกายต้านทานต่อสารพิษต่าง ๆ ได้สูงกว่าคนปกติธรรมดา อาทิ สารเคมี, ยากำจัดศัตรูพืช, ยาฆ่าแมลง, ก๊าซพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ในอุตสาหกรรม เครื่องจักรกล และสารอาหารในพืชผักช่วยให้เซลล์ต่างๆ ของร่างกายทนต่อการทำลายจากรังสีต่างๆ เช่น กัมมันตภาพรังสีที่เกิดจากการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ และในสงคราม
สำหรับวิธีการเตรียมตัวก่อนกินเจ
1. ห้ามกินผักที่มีกลิ่นฉุนหรือผักที่มีกลิ่นแรง ประกอบด้วย หัวหอม ต้นหอม ใบหอม หลักเกียว กุ้ยช่าย กระเทียม ใบยาสูบ (บุหรี่ ยาเส้น ของเสพติดมึนเมา) เนื่องจาก ร่างกายจะถูกกระตุ้นจากรสของอาหารนั้นๆ
2. ห้ามกินเนื้อสัตว์ หรืออาหารที่มีส่วนผสมหรือส่วนประกอบ หรือเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งจากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นไขมันสัตว์ ไข่ เลือด อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์
3. ห้ามกินอาหารที่มีรสจัด ทั้งเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด หรือเปรี้ยวจัดก็ตาม เพราะอาหารที่มีรสจัดจะไปกระตุ้นต่อมต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานมากขึ้น เชื่อว่าจะเป็นผลให้จิตใจไม่สงบ
4. ห้ามกินอาหารที่คนปรุงไม่ได้ถือศีลกินเจ ข้อนี้แหละที่ทำให้คนถือศีลกินเจต้องไปอยู่รวมกันในสถานที่ที่มีคนกินเจรวมตัวกันอยู่ อย่างเช่นโรงทาน ศาลเจ้าต่างๆ ที่จัดงาน เพราะคนที่ทำหน้าที่ทำอาหารนั้นจะถือศีลด้วย
5. ถ้วยชามที่ใช้ใส่อาหารจะต้องไม่ปนกัน ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรือเบียดเบียนชีวิตใคร ต้องแต่งกายด้วยชุดขาว ห้ามพูดคำหยาบ โกหก ยุยง ส่อเสียด หรือพูดจาไม่เป็นสาระ
6. ห้ามดื่มสุราและของมึนเมา ในช่วงที่ถือศีลกินเจตลอด 9 วัน
7. ห้ามดับตะเกียงทั้ง 9 ดวง ในสถานที่อย่างศาลเจ้า โรงเจ โรงทาน หรือสถานที่ที่จัดงานถือศีลกินเจ จะมีการจุดตะเกียง 9 ดวงเอาไว้ตลอดวันตลอดคืน จึงต้องมีคนเฝ้าไม่ให้ตะเกียงนั้นดับ
แม้การรักษาศีลกินผักตลอดทั้ง 9 วันอาจเป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่ แต่อยากให้คุณลองค่อยปรับ ปีแรกอาจตั้งเป้าในการกิน เพียงแค่ 3 วันแล้วปีต่อๆไปค่อยขยับขึ้น หลังจากนั้นคุณก็จะสามารถรับประทานเจได้อย่างสบายใจ
ชัดก่อนแชร์ | ผักผลไม้อบกรอบกินแล้วไม่อ้วน จริงหรือ? | PPTV HD 36