บทบัญญัติกฎหมายประเทศลาว ที่เกี่ยวข้องกับพระภิกษุที่อาบัติปาราชิกสิกขาบท 1 ปรากฏในมาตรา 130 หมวดที่ 6 ว่าด้วยการกระทำ ผิดต่อสายผัวเมีย ครอบครัว และยึดครองประเพณี แห่งกฎหมายอาณาจักรลาวปี ค.ศ. 2005 ดังนี้
มาตรา 130 การทำชำเรา พระภิกษุ สามเณร ภิกษุสามเณรองค์ใดหากได้เสพสมกับผู้หญิงหรือผู้ชายจะถูกลงโทษ ตัดอิสรภาพแต่ 6 เดือน - 3 ปี และจะถูกปรับไหมตั้งแต่ 500,000 กีบ ถึง 3,000,000 กีบ (หรือตั้งแต่ 1,390 -8,341 บาท) และผู้หญิงหรือผู้ชายที่ได้สมัครใจเสพสมกับภิกษุหรือสามเณรจะถูกลงโทษในสถานเดียวกัน
ชาวบ้าน เตรียมแจ้งจับ พระเทศนาสอนเสพเมถุน
วิเคราะห์บอล !! พรีเมียร์ลีก เอฟเวอร์ตัน พบ เชลซี 1 พ.ค.65
จากมาตราดังกล่าวเห็นได้ว่า การกระทำของพระภิกษุสามเณรเป็นการกระทำผิดต่อยึดครองประเพณี และผู้ที่ร่วมประเวณีไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายกฎหมายให้เอาโทษเช่นเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นของกฎหมายอาญาลาวที่ให้ความสำคัญ และประสงค์ให้ภิกษุสงฆ์ สามเณร รวมทั้งฆราวาสมีพฤติกรรมที่เหมาะสมไม่ประพฤติเสื่อมเสียในทางเพศ เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาและจารีตประเพณีอันดีงามของประเทศลาว
แต่ในอดีตกาล สมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ พระไอยการลักษณะผัวเมีย ที่รวบรวมอยู่ในกฎหมายตราสามดวง ระบุเอาไว้ดังนี้
40 มาตราหนึ่ง พระครูภิกษุสามเณร ผิดเมียท่านถึงชำเราชื่อว่าปาราชิก ให้สึกออกแล้วปรับไหม (ปรับเงิน)โดยพระราชกฤษฎา"
41 มาตราหนึ่ง ถ้าพระครูภิกษุหรือสามเณรเสพเมถุนหญิงที่เป็นโสด ชื่อว่าปาราชิก ให้สึกออกลงโทษ ทวนด้วยลวดหนัง 25 - 50 ที ส่งตัวไปเลี้ยงหญ้าช้างหลวง ส่วนหญิงให้ลงโทษเช่นกัน
สำหรับกฎหมายอาญาของไทยในปัจจุบัน ไม่มีการกำหนดโทษเอาผิดภิกษุสามเณรที่อาบัติปาราชิกจากการเสพเมถุน และบุคคลที่ร่วมเสพเมถุน