‘อนุชา-ผอ.พศ.’ ยันไม่นิ่งนอนใจ เร่งสอบ “อดีตพระกาโตะ”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




‘อนุชา-ผอ.พศ.’ ยันไม่ช่วยเหลือทางคดี ‘อดีตพระกาโตะ’ ยอมรับสอบล่าช้าไปบ้าง ต้องทำงานรอบคอบ ก่อนชี้แจง พศ.ไม่เกี่ยวจัดการสัทธิแปลกๆ

นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พร้อมด้วยนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่วมกันแถลงข่าวกรณีมีข่าวเกี่ยวกับพระสงฆ์ประพฤติตนไม่เหมาะสมและสร้างความเสื่อมเสียหลายกรณีในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา

อนุชา กล่าวย้ำว่า มหาเถรสมาคม (มส.) และพศ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ กลับประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคม และได้นำเรื่องนี้ร่วมหารือในที่ประชุม มส.

“กาโตะ” เคลียร์ใจสื่อ เชื่อ “พระอาจารย์ดอน” อมเงินปิดข่าว 3 แสนบาท

โชว์หมายจับ ‘พระคนกลาง’ คดีเช็คเด้ง เกี่ยวพันเงิน 6 แสน คดีพระกาโตะ

โควิดไทย 10 จังหวัดสูงสุด อีสานยอดป่วยเยอะกว่าภาคอื่น

โดย มีมติมส.ที่ 391/2565 เรื่องพระภิกษุมีจริยวัตร ไม่เหมาะสมประพฤติตนไม่เอื้อต่อพระธรรมวินัย โดย พศ.เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากความไม่เข้มงวดกวดขัน และตรวจตราพระภิกษุในปกครองอย่างเคร่งครัดของเจ้าคณะปกครองแต่ละระดับ โดยเฉพาะเจ้าคณะปกครองใกล้ชิดการที่จะทำให้ปัญหาต่างๆ นี้ยุติลงหรือป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้ เจ้าคณะปกครองทุกระดับต้องให้ความสำคัญและเข้มงวดกวดขันในการตรวจตราพระภิกษุในบังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ที่ประชุมมส.มีมติแจ้งให้เจ้าคณะผู้ปกครองทุกระดับทุกระดับปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด คือ

  1. กำชับให้พระอุปประชาปฏิบัติตามกฎ มส. ต้องเข้มงวดในการคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาบรรพชาอุปสมบทอย่างเคร่งครัด
  2. กำชับให้เจ้าอาวาส ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาใกล้ชิด ควบคุมบังคับบัญชา พระภิกษุสามเณรในปกครองประพฤติตาม พระธรรมวินัย กฎหมาย กฎ มส.ข้อบังคับ ระเบียบคำสั่งประกาศและมติของมส.อย่างเคร่งครัด และ3.กำชับให้เจ้าคณะปกครองในแต่ละระดับตรวจตรา พระภิกษุ ผู้ปกครองในแต่ละระดับประพฤติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากพบเห็นหรือทราบข่าวเกี่ยวกับพฤติการณ์พระภิกษุในปกครองที่ไม่เหมาะสมให้ดำเนินการแก้ปัญหาให้ยุติโดยเร็ว ขณะเดียวกันมส.ได้มีมติมอบหมายให้ประธานฝ่ายปกครอง คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ)  เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ตั้งคณะกรรมการเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ และโทษกับพระที่ปฏิบัติไม่เหมาะสม และเจ้าคณะผู้ปกครองที่ปล่อยปะละเลยให้มีการประพฤติที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาบทลงโทษ

นายอนุชา กล่าวอีกว่า ตนประชุมสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) เพื่อดูแลสอดส่องร่วมกับพระผู้ปกครองในการเข้มงวดกวดขัน และเป็นหูเป็นตา ซึ่งตนเคยประชุมร่วมกับ พศ จังหวัดทุกจังหวัดแล้ว พร้อมทั้งได้กำชับไปแล้วด้วย ทั้งนี้ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา(พศ.) บางครั้งไม่สามารถตัดสินหรือก้าวก่ายได้ ก็คงจะต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของพระ และส่วนตัวเป็นฆราวาสไม่สามารถไปชี้ว่าอันไหนถูกอันไหนผิดอันไหนเหมาะสม ถูกต้องหรือไม่ถูกต้องอย่างไร คงต้องให้มหาเถรสมาคม (มส.) ทราบปัญหาและแก้ไขเราเพียงแค่มีส่วนช่วย และสนับสนุนการทำงานของพระผู้ปกครองและมหาเถรสมาคม เพื่อให้การปกครองของพระภิกษุ เป็นไปด้วยความราบรื่น และถูกต้อง จะจากข้อท้วงติ่งแล้วก็ขัดแย้งทางสังคมที่อาจจะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ดังนั้นเราต้องช่วยพระและมหาเถรสมาคมช่วยสอดส่องดูแลและรายงานเรื่องต่างๆให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม

อัจฉริยะ เปิดหลักฐานสำคัญ “ขบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จ” คดีแตงโม

เมื่อถามว่าการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดและกิจกรรมต่างๆมีการดำเนินการอย่างไร นายสิปป์บวร  กล่าวว่า การจัดทำบัญชีของวัดปัจจุบันได้มีการจัดทำบัญชีพื้นฐานรับและจ่าย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประสานความร่วมมือกับเจ้าคณะผู้ปกครองให้รายงานสถานะทางการเงินของวัดมายัง พศ.

เมื่อถามถึงกรณีอดีตพระกาโตะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นมีความคืบหน้าอย่างไร  นายอนุชา กล่าวว่า ในส่วนนี้การสอบสวนมีหลายขั้นตอน ทางพระผู้ปกครองและฝ่ายบ้านเมืองได้ทำการสอบอย่างจริงจังเข้มงวด ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือกันอย่างแน่นอน และองค์กรสงฆ์ได้ทำหน้าที่ของพระฝ่ายปกครองอย่างเต็มที่อย่างเต็มที่ แม้กระทั่งการกำหนดขั้นตอนในส่วนของการปาราชิก ให้มีผลย้อนหลังไปก่อนที่อดีตพระกาโตะจะสึก ซึ่งจะขาดตั้งแต่ที่ได้กระทำความผิดพระวินัย ส่วนผลสอบอย่างเป็นทางการ ไม่ได้มีการขีดเส้นตาย เพราะมีรายละเอียดเรื่องของบัญชีต่างๆ คงต้องรอรายละเอียดที่ชัดเจนไม่ให้เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยของสังคม

ด้าน นายนายสิปป์บวร ยังกล่าวถึง การตรวจสอบอดีตพระกาโตะ ว่า ได้มีการการสอบอย่างละเอียด แต่ต้องทำอย่างรอบคอบ อาจจะช้าไปบ้าง ส่วนเรื่องการปาราชิกจะเกิดขึ้นตั้งแต่มีการเสพเมถุนตั้งแต่บนสันเขื่อน ซึ่งจะทำให้อดีตพระกาโตะ ไม่สามารถกลับมาบวชได้ตลอดชีวิต

ส่วนกรณี นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา บุกเข้าไปยังสำนักลิทธิประหลาดใน จ.ชัยภูมิ โดยอ้างเป็นพระบิดา เรื่องนี้ นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องลัทธิแปลกๆ แบบนี้ ทาง พศ.ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของลัทธิ ลัทธิเป็นเรื่องของความเชื่อ ซึ่งเป็นเรื่องของคนที่ปฏิบัติการสร้างความเชื่อของลัทธิต่างๆ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องของฝ่ายปกครองที่ตรวจสอบ ถ้าลัทธิที่ทำคุณงามความดี สามารถทำเป็นสมาคมที่จะสร้างประโยชน์ ให้กับสังคม แต่ถ้าสร้างลัทธิ ขึ้นมาแล้วทำความเดือดร้อนให้สังคมเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองและกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จะต้องเข้าไปตรวจสอบ

ตร.เร่งสอบ 11 ศพ ในสำนัก “ลัทธิประหลาด” อ้างรอขึ้นสวรรค์

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ